มีความคิดแย่ๆตลอดเวลาทำอย่างไรดีค่ะ
โดย hunnyblue  21 มี.ค. 2558
หัวข้อหมายเลข 26350

สวัสดีค่ะ...ตอนนี้หนูมีเรื่องคับข้องใจมากเลยค่ะ คือหนูมีความคิดอะไรแปลกๆ แวบเข้ามาในหัวอยู่บ่อยๆ จนบางวันเรียกได้ว่าเป็น...ส่วนนึงของกิจวัตรประจำวันเลยก็ว่าได้อารมณ์บางวันก็ขึ้นๆ ลงๆ หงุดหงิดโดยไร้สาเหตุ กลัวจับใจที่ความคิดแวบเข้ามาในหัว หนูมีความคิดแปลกๆ เช่น อยากจะทำร้ายตนเอง อยากจะทำร้ายผู้อื่น ยิงคนอื่น ซึ่งไม่รู้ว่าความคิดแบบนี้มันมาได้อย่างไร

หนูอยากจะไปพบจิตแพทย์นะค่ะ แต่กลัวจะเครียดกว่าเดิม หรือว่ากลัวจะได้ยานอนหลับ ยาคลายเครียดกลับมารับประทาน ะอ่อ...แต่อาการทางกายของหนูเป็นปกตินะค่ะ สามารถกินอาหารได้ นอนหลับและตื่นนอนเป็นเวลา แต่พักหลังมานี่มักมีอาการสะดุ้งตื่นกลางดึกบ่อยๆ หนูควรทำอย่างไรดีค่ะ



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 21 มี.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ถ้าเป็นมากๆ ควรปรึกษาจิตแพทย์ก่อนนะครับ จะเป็นสิ่งที่ดี เพราะ จะทำให้เข้าใจปัญหาว่าเกิดจาก สารหลังในสมอง ซึ่งกินยาอาจช่วยได้ อย่างไรก็ดี ความกลัว ความคิดไม่ดี มีได้ เพราะ มีจิต และ เพราะ มีกิเลส ดังนั้นต้นตอของปัญหา ทุกอย่าง คือ กิเลสที่มีในจิตใจ เพราะฉะนั้น ควรอย่างยิ่งที่มีโอกาส ก็ควรแสวงหาทาง แสวงหายา ที่จะรักษาโรคใจด้วยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ก็จะทำให้เกิดความเข้าใจขึ้น ว่าแม้ความกลัว ความคิดไม่ดี ไม่ใช่เรา และ เป็นการสะสมมา ถึงทำให้เกิดเช่นนี้ ความเข้าใจถูกเกิดขึ้นในขณะใด ความกลัวก็ไม่เกิดขึ้นในขณะนั้น และ ปัญญาเท่านั้นที่จะละคาามกลัวได้ในที่สุด ครับ

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย khampan.a  วันที่ 21 มี.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ประโยชน์จากการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ก็เพื่อเข้าใจสภาพธรรมที่มีจริง ที่กำลังมี กำลังปรากฏ ตามความเป็นจริง ซึ่งสิ่งที่ศึกษานั้น ไม่พ้นจากขณะนี้เลย ไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ ถึงแม้จะมีสภาพธรรมที่มีจริงๆ ในขณะนี้ แต่เพราะไม่รู้ จึงต้องศึกษาด้วยความละเอียดรอบคอบจริงๆ

คิด เป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย บังคับไม่ให้เกิดก็ไม่ได้, ขณะที่คิด อะไรที่มีจริง ก็ต้องเป็น จิต เป็นสภาพธรรมที่มีจริง (และเมื่อจิตเกิดขึ้น ก็ต้อง มีสภาพธรรมที่เกิดร่วมกับจิต คือ เจตสิก ด้วย) ส่วนเรื่องราวที่จิตคิดนั้นไม่ใช่สิ่งที่มีจริง ไม่ใช่รูปธรรมและนามธรรม แต่เป็นบัญญัติเรื่องราวต่างๆ เรื่องราวต่างๆ นั้น เป็นสิ่งที่จิตรู้ เรื่องราวจึงเป็น อารมณ์ของจิต ที่กำลังคิดในขณะนั้น ซึ่งก็จะเข้าใจไปถึงคำว่า อารมณ์ ด้วย เพราะสิ่งใดก็ตามที่จิตรู้สิ่งนั้นเป็น อารมณ์ ของจิต

เมื่อฟังบ่อยๆ เนืองๆ ไม่ขาดการฟังพระธรรม ความเข้าใจถูก เห็นถูก ก็จะค่อยๆ เจริญขึ้น และ เมื่อฟังพระธรรมบ่อยๆ เนืองๆ ก็ย่อมจะเกื้อกูลต่อการที่จะได้คิดถึงพระธรรมที่ได้ยินได้ฟังเป็นการได้ทบทวน แทนที่จะไปคิดถึงเรื่องอื่นซึ่งเป็นไปกับอกุศลมากมาย ก็ขอให้มีโอกาสได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ต่อไป นะครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 3    โดย ประสาน  วันที่ 22 มี.ค. 2558

ความเข้าใจถูกเกิดขึ้นขณะใด ความกลัวก็ไม่เกิดขึ้นในขณะนั้น

จิตที่คิดมีจริง ส่วนเรื่องราวที่คิดไม่ใช่เรื่องจริง

ฟังบ่อยๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ เนื่องๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ก็จะเกื้อกูลให้เข้าใจถูกเห็นถูกครับ

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 4    โดย peem  วันที่ 22 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย Patchanon  วันที่ 22 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 6    โดย wannee.s  วันที่ 24 มี.ค. 2558

ในพระไตรปิฏกมีแสดงไว้ เทวดาทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า คนมีชีวิตเป็นอยู่อย่างไร นักปราชญ์ทั้งหลายกล่าวว่ามีชีวิตประเสริฐ พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า คนที่เป็นอยู่ด้วยปัญญานักปราชญ์ทั้งหลายกล่าวว่า มีชีวิตประเสริฐ ค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย ms.pimpaka  วันที่ 24 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ