จิตไม่มีกำลัง
โดย วัชชุกร  25 ส.ค. 2559
หัวข้อหมายเลข 28127

ขอถามท่านผู้รู้หน่อยครับ ว่า ควรแก้ไขอย่างไรครับ

ขอบคุณครับ



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 25 ส.ค. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ไม่ใช่การแก้ไข ให้จิตไม่มีกำลัง ให้มีกำลัง แต่ สำคัญ คือ พระพุทธศาสนาเป็นเรื่องของปัญญา คือ ความเข้าใจถูก ไม่ใช่เรื่องของเรา ตัวตน ที่เป็นอัตตา ไม่ใช่อนัตตา เพราะฉะนั้น พระพุทธเจ้าทรงแสดงหนทางที่ถูกต้อง คือ การเข้าใจความจริงของสภาพธรรมที่เกิดขึ้นแล้วเป็นปกติ อกุศลเกิดขึ้น ก็ปกติ เป็นธรรม แต่เพราะไม่รู้ ยึดถือว่า อกุศลเป็นเรา จึงอยากจะแก้ไข จาก อกุศล ให้เป็นกุศล เพราะความรักตัว แต่ที่ถูกต้อง คือเข้าใจถูกว่าอกุศลเป็นธรรมไม่ใช่เรา เข้าใจจิตที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจิตประเภทใดว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา นี่คือ หนทางการอบรมปัญญาที่ถูกต้อง ซึ่งก็อาศัยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมในหนทางที่ถูกต้องต่อไป ครับ ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย วัชชุกร  วันที่ 25 ส.ค. 2559

ขอบคุณมากครับ

สาธุ


ความคิดเห็น 3    โดย khampan.a  วันที่ 25 ส.ค. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สภาพธรรมที่เป็นกิเลสทั้งหลาย มีโลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น เป็นสิ่งที่ทำให้จิตเศร้าหมอง ไม่มีกำลัง ทำให้จิตอ่อนกำลัง ไม่สามารถเป็นกุศลได้เลยในขณะที่เป็นอกุศล เพราะสภาพธรรมเหล่านี้ เกิดร่วมกับจิต ปรุงแต่งให้เป็นอกุศลจิต เป็นไปตามการสะสมของแต่ละบุคคล แต่ถึงแม้ว่าจะสะสมกิเลสมามากเพียงใดก็ตาม กิเลส ก็ไม่ได้เป็นใหญ่ ไม่ใช่สิ่งที่มีกำลัง (เพราะกำลังในที่นี้ ต้องเป็นกำลังของฝ่ายกุศลเท่านั้น) เพราะเหตุว่า สภาพธรรมที่จะดับกิเลสแม้มีมาก ต้องเป็นธรรมฝ่ายดี กล่าวคือ ปัญญา เป็นต้น เท่านั้น ดังนั้น จากที่เป็นผู้อ่อนกำลังด้วยอกุศลธรรมที่ได้สะสมมาอย่างเนิ่นนาน ก็สามารถที่จะเพิ่มกำลังให้แก่จิตได้ด้วยการสะสมกุศลประการต่างๆ ในชีวิตประจำวัน (ในขณะที่กุศลจิตเกิดขึ้น ก็สงบจากอกุศลชั่วขณะ) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ การอบรมเจริญปัญญาจากการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมเป็นปกติในชีวิตประจำวันเพราะความเข้าใจถูกเห็นถูก นี้เอง จะเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้ออกห่างจากกิเลสไปตามลำดับ จนกว่าจะสามารถออกได้อย่างสิ้นเชิงเมื่อสามารถดับกิเลสได้ตามลำดับขั้น ผู้ที่อบรมเจริญปัญญาถึงขั้นรู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระอริยบุคคลขั้นต่างๆ กิเลสทั้งหลายก็ถูกดับได้ตามลำดับมรรค กิเลสทั้งหลายไม่ได้เป็นใหญ่อะไร ไม่ได้มีกำลัง ไม่สามารถครอบงำทำอะไรกับสภาพธรรมฝ่ายดีเหล่านี้ได้ แต่ธรรมฝ่ายดี สามารถดับกิเลสได้
ชีวิต สั้นแสนสั้น ขณะทีประเสริฐ คือ ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ สะสมเป็นความเข้าใจถูกเห็นถูกของตนเอง ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 4    โดย ชัยญานพ  วันที่ 26 ส.ค. 2559

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 5    โดย มานิสาโข่งเขียว  วันที่ 26 ส.ค. 2559

สาธุ


ความคิดเห็น 6    โดย วัชชุกร  วันที่ 26 ส.ค. 2559

ขอบคุณมากครับ

สาธุ


ความคิดเห็น 7    โดย ํํญาณินทร์  วันที่ 26 ส.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 8    โดย thilda  วันที่ 27 ส.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 9    โดย goodgirl  วันที่ 28 ส.ค. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การชักชวนคนมีกิเลสมากให้ศึกษาพระธรรมเพื่อสะสมความเห็นถูกช่างยากจนท้อ


ความคิดเห็น 10    โดย namkhang.k@gmail.com  วันที่ 31 ส.ค. 2559

สาธุค่ะ


ความคิดเห็น 12    โดย Srisuda77  วันที่ 1 ก.ย. 2559

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 13    โดย wannee.s  วันที่ 1 ก.ย. 2559

เปรียบเหมือนเรารู้หนทางที่จะพ้นทุกข์ แต่ถ้าเราไม่อบรมเจริญบารมีทั้ง 10 เราก็ไม่มีกำลังที่จะไปถึงฝั่งคือพระนิพพานค่ะ


ความคิดเห็น 15    โดย j.jim  วันที่ 3 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 16    โดย kukeart  วันที่ 3 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 17    โดย peem  วันที่ 6 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 18    โดย kullawat  วันที่ 7 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ