ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอเชิญรับฟัง ...
สติและสติปัฏฐาน
ในขณะนี้ เป็นนามธรรม เป็นรูปธรรม ถ้า สติปัฏฐาน ไม่เกิด เราก็ ฟัง เรื่องของ นามธรรม รูปธรรม มี ความเข้าใจ ทีละเล็กทีละน้อย เรื่องของ นามธรรม - รูปธรรม แต่ “ขณะที่ฟัง” เป็นสติ - ขั้นฟัง กุศลใดๆ ทั้งหมด ที่จะ ขาด สติเจตสิก ไม่มีเลย ไม่ว่าจะเป็นทาน ไม่ว่าจะเป็นศีล ไม่ว่าจะเป็นสมถภาวนา การช่วยเหลือผู้อื่น หรือว่า วาจาที่เป็นประโยชน์ ทั้งหมด ขณะนั้น เพราะ จิต เกิดร่วมกับสติเจตสิก ที่ระลึก เป็นไปอย่างนั้นๆ การกระทำ และ คำพูดนั้นๆ จึงได้เกิดขึ้น เพราะฉะนั้น “สติ” เป็นประโยชน์ในที่ทั้งปวง หรือ จะใช้ คำที่แปลกันว่า “จำปรารถนาในที่ทั้งปวง” ซึ่งก็ หมายความถึง ว่า “เป็นประโยชน์ในที่ทั้งปวง” เพราะ สติ เกิด ระลึกได้ วันนี้ มี ใคร ระลึก ที่จะ ให้ทาน บ้างไหม ... ไม่ – มี ก็ได้ แต่ว่า “ระลึก ที่จะ ฟังธัมมะ” ถ้า สติ ไม่เกิด ... ไปแล้วค่ะ ... ระลึก เรื่องอื่น ทันที แม้แต่ “ขณะที่กำลังฟัง” เวลาฟัง แล้วก็เข้าใจ พิจารณา นั่นคือ “หน้าที่ของสติ” ที่ ไม่ ไป อื่น แต่ ระลึก สภาพที่ เรื่องราวที่ กำลังได้ยินได้ฟัง แล้วปัญญา ก็สามารถที่จะเกิด ค่อยๆ เข้าใจ เป็น สภาพธัมมะ ทั้งหมด คือ จิต เจตสิก ทั้งหมด
แต่ว่า ให้ทราบว่า ต้อง รู้ ลักษณะของสติ ว่า เป็นธัมมะฝ่ายดี แล้วก็ เกิดกับกุศลทุกประเภท ไม่ว่า จะเป็น ขั้นทาน ... สติ ก็ระลึก เป็นไปในการให้ บางคน ก็อาจจะ มี เสื้อผ้า หลายๆ ตัว เกิด คิด ไหม ว่า ตัวนี้จะให้ใคร เป็นประโยชน์แก่ใคร นั่นคือ “สติ” ไม่ใช่เรา ทั้งๆ ที่ เคยเป็นเรา - ทำกุศล แต่ ความจริง คือ สติ เกิดขึ้น ... จึงเป็นไปในกุศล แล้วแต่ว่า ระดับไหน ระดับทาน ระดับศีล ระดับสมถะ หรือว่า ระดับสติปัฏฐาน เพราะฉะนั้น สติปัฏฐาน เป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องที่ ... ถ้า ไม่มี พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่มี ใคร อบรม เจริญสติปัฏฐาน เพราะว่า จากการตรัสรู้ จึงสามารถที่จะ รู้ว่า หนทางจริงๆ ที่จะทำให้ รู้ ลักษณะของสภาพธัมมะ ไม่ใช่ เพียงระดับขั้นฟัง ... แต่ ขั้นประจักษ์แจ้ง ในความเป็น นามธรรมและรูปธรรม ต้อง เป็น เมื่อ สติ เกิด แล้วก็ระลึก ลักษณะของสภาพธัมมะ เพราะฉะนั้น ต้อง มี ความเข้าใจ สภาพธัมมะ ก่อน ถ้า ไม่มี ความเข้าใจสภาพธัมมะ ... สติปัฏฐาน จะเกิด ได้ไหม เรียกชื่อกันว่า สติปัฏฐาน ... แต่ ตัวจริง ไม่ใช่ สติปัฏฐาน ของปลอมกับของจริง ใช่ไหม ดอกไม้ปลอมกับดอกไม้จริง ถ้า ไม่ใช่ ของจริง ก็ต้องเป็น ของปลอม ไม่ใช่ สติ ก็ไปเรียกว่า สติ ทั้งๆ ที่ ไม่ใช่สติ ทีนี้ รู้จัก-ตัวปลอม-ตัวจริง ไหม ถ้า ตัวจริง ... ยังไม่เกิด ก็รู้ไม่ได้ว่า อะไร-จริง จนกว่า สภาพที่เป็นจริง-เกิด เมื่อนั้น ก็จะ รู้ว่า สภาพจริงๆ ... เป็นอย่างนี้
ขอขอบพระคุณ คุณใหญ่ราชบุรีมากครับ ที่ถอดเสียงมาให้อ่าน ผมจะถนัดอ่านมากกว่าฟัง
อนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ