ประวัติพระพุทธศาสนาของศรีลังกา (ตอน ๕)
โดย sutta  26 พ.ย. 2552
หัวข้อหมายเลข 14361

การอันเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐานที่ประเทศศรีลังกา แบ่งเป็นสองส่วนคือพระบรมสารีริกธาตที่ได้มาจากพระเจ้าอโศกมหาราชและพระบรมสารีริกธาตุที่อันเชิญมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งจากตอนที่แล้วได้พูดถึงพระบรมสารีริกธาตุที่อันเชิญมาจากพระเจ้าอโศกและได้มาประดิษฐานที่เจติยบรรพตหรือพระมหาเสยะเจดีย์

พระบรมสารีริกธาตุส่วนที่สอง ที่อันเชิญมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พระอินทร์มีพระบรมสารีริกธาตุอยู่สองพระองค์คือ พระเขี้ยวแก้วเบื้องขวาและพระรากขวัญเบื้องขวา (กระดูกไหปลาร้า) สุมนสามเณรจึงได้ขอส่วนที่เป็นพระรากขวัญเบื้องขวามาประดิษฐานที่ศรีลังกา

เมื่อสุมนสามเณรได้พระรากขวัญเบื้องขวามาแล้ว ก็ได้พระมหินถระเป็นประธานอันเชิญพระบรมสารีริกธาตุไปยังมหานาควันอุทยาน พระราชาก็ไปต้อนรับเสด็จพระบรมสารีริกธาตุที่มหานาควันอุทยานเช่นกัน ซึ่งในตอนนี้เองจะเห็นได้ถึงความวิจิตรของจิตของแต่ละคน เพราะบางคนเมื่อได้พระบรมสารีริกธาตุมาก็สงสัยว่าจริงหรือปลอม พระเจ้าเทวานัมปิยะติสสะก็เช่นเดียวกัน ก็สงสัยเช่นนั้นจึงได้อธิษฐานว่า หากนี้เป็นพระธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไซร้ เศวตฉัตรจงเบนออกไป ช้างมงคลจงคุกเข่าลงบนพื้นและขอให้ผอบ (ที่ใส่) บรรจุพระบรมสารีริกธาตุจงมาประดิษฐานบนกระหม่อมของเรา พอพระราชาคิดจบเท่านั้น ฉัตรก็ได้เบนออกไป ช้างก็คุกเข่าลงและผอบที่บรรจุพระธาตุก็มาประดิษฐานอยู่บนกระหม่อมพระราชา หากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับท่านทั้งหลายก็คงปิติอยู่ไม่น้อย พระราชาเองก็ทรงเกิดพระปิติปราโมทย์เป็นอย่างมาก เหมือนน้ำทิพย์สรงตัวท่าน

พระราชาได้ตรัสถามพระเถระว่าควรปฏิบัติกับพระธาตุอย่างไร พระเถระได้ทูลว่าให้วางไว้บนกระพองช้าง (ส่วนที่นูนเป็นปุ่มทั้ง 2 ข้างศีรษะช้าง) ไว้ก่อน พระราชาจึงยกผอบที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุวางไว้บนกระพองช้าง ช้างเกิดความดีใจ ได้ร้องด้วยเสียงอันดัง เมฆตั้งเค้า ฝนโบกขรพรรษ (ฝนที่ใครอยากเปียกก็เปียก ใครไม่อยากเปียกก็ไม่เปียก) ก็ตกลงมา แผ่นดินได้ไหวครั้งใหญ่อันเป็นการแสดงว่า พระธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจักประดิษฐานอยู่ที่ปัจจันตชนบทคือประเทศศรีลังกาแล้ว ซึ่งในวันนั้นตรงกับวันเพ็ญเดือน 12 อันชาวไทยถือเป็นประเพณีลอยกระทง ดังนั้นวันลอยกระทงจึงเป็นวันคล้ายวันที่พระสารีบุตรอัครสาวกปรินิพพานและยังเป็นวันที่พระบรมสารีริกธาตุรากขวัญเบื้องขวามาประดิษฐานที่กระพองช้างที่ประเทศศรีลังกาและแผ่นดินไหว

พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ -หน้า 145

พระมหาวีระ (ผู้มีความเพียรใหญ่) เสด็จมาในเกาะลังกานี้ จากเทวโลก ได้ประดิษฐานอยู่บนกระพองช้าง ในดิถีเพ็ญเป็นที่เต็มครบ ๔ เดือน กลางเดือน ๑๒ ก่อให้เกิดปีติแก่ทวยเทพและหมู่มนุษย์ทั้งหลาย ด้วยสิริคืออานุภาพแห่งฤทธิ์ ด้วยประการฉะนี้แล.

ซึ่งสำหรับในตอนต่อไข้าพเจ้าจะได้กล่าวถึงช้างได้นำพระธาตุไปประดิษฐานที่ถูปารามและได้แสดงยมกปาฏิหารย์และที่ถูปารามเป็นที่ประดิษฐาน เครื่องใช้สอยของพระพุทธเจ้าในอดีตถึง 3 พระองค์ ผู้ที่จะเดินทางไปศรีลังกาและได้ไหว้ถูปารามย่อมจะให้ความเคารพ นอบน้อมในพระคุณของพระพุทธเจ้าได้เป็นอย่างดี



ความคิดเห็น 2    โดย วันชัย๒๕๐๔  วันที่ 26 พ.ย. 2552

ขออนุโมทนาครับ

เป็นประโยชน์อย่างยิ่งที่ได้รู้ถึงประวัติของพระพุทธศาสนาที่ศรีลังกา อันศรัทธาของพุทธศาสนิกชนที่นั่นยังคงเหนียวแน่นจนปัจจุบัน


ความคิดเห็น 3    โดย wannee.s  วันที่ 26 พ.ย. 2552

ศรัทธาเป็นทรัพย์เครื่องปลื้มใจอย่างประเสริฐของคนในโลกนี้

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย khampan.a  วันที่ 26 พ.ย. 2552

ขออนุโมทนาในกุศลศรัทธาครับ


ความคิดเห็น 5    โดย ups  วันที่ 26 พ.ย. 2552

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 6    โดย petcharath  วันที่ 29 พ.ย. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย จักรกฤษณ์  วันที่ 30 พ.ย. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 8    โดย opanayigo  วันที่ 15 ธ.ค. 2552
อนุโมทนาในกุศลวิริยะค่ะ

ความคิดเห็น 9    โดย orawan.c  วันที่ 26 ก.พ. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 10    โดย homenumber5  วันที่ 6 มี.ค. 2553

จากภาพบนจะเห็นว่าชาวพุทธในศรีลังการนุ่งห่มผ้าขาวเวลาไปวัด

อนุโมทนา


ความคิดเห็น 12    โดย saifon.p  วันที่ 7 มี.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 13    โดย aditap  วันที่ 8 มี.ค. 2553

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 14    โดย Wisaka  วันที่ 5 พ.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 15    โดย ํํญาณินทร์  วันที่ 23 ก.พ. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 16    โดย chatchai.k  วันที่ 15 ม.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ