[เล่มที่ 24] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ หน้า 138
ข้อความตอนหนึ่งจาก... ปัชโชตสูตร
[๖๙] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบเทวดา ว่า แสงสว่างทั้งหลายในโลกมีอยู่ ๔ อย่าง แสงสว่าง ที่ ๕ มิได้มีในโลกนี้ ดวงอาทิตย์ ส่องสว่าง ในเวลากลางวัน ดวงจันทร์ส่องสว่าง ในเวลากลางคืน อนึ่ง ไฟย่อมรุ่งเรือง ในเวลากลางวัน และ เวลากลางคืน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประเสริฐกว่าแสงสว่างทั้งหลาย แสงสว่างของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นแสงสว่างอย่างยอดเยี่ยม.
ในอรรถกถา แก้ไว้ว่า.-
บทว่า เอสา อาภา แปลว่า แสงสว่างของพระพุทธเจ้า นี้. ถามว่า แสงสว่างของพระพุทธเจ้า นี้ เป็นไฉน ตอบว่า แสงสว่าง แม้ทั้งปวงเหล่านี้คือ แสงสว่างคือ ฌานก็ตาม แสงสว่างคือปีติก็ตาม แสงสว่างคือปสาทะ (ความผ่องใส เลื่อมใส) ก็ตาม แสงสว่างคือธรรมกถา ก็ตาม จงยกไว้ แสงสว่างอันเกิดขึ้นเพราะความปรากฏแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ชื่อว่า แสงสว่างแห่งพระพุทธเจ้า แสงสว่างนี้เท่านั้น ยอดเยี่ยม ประเสริฐ สูงสุดกว่าแสงสว่างทั้งหมด ไม่มีแสงสว่างอื่นเทียบได้ ดังนี้แล.
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
พระพุทธเจ้าบังเกิดมาเพื่อเป็นแสงสว่างแก่สัตว์โลก
[เล่มที่ 32] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 182
[๑๔๔] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความปรากฏขึ้นแห่งบุคคลผู้เอกเป็นความปรากฏแห่งจักษุใหญ่ แห่งแสงสว่างใหญ่ แห่งโอภาสใหญ่แห่งอนุตตริยะ ๖ เป็นการกระทำให้แจ้งซึ่งปฏิสัมภิทา ๔ เป็นการแทงตลอดธาตุเป็นอันมาก เป็นการแทงตลอดธาตุต่างๆ เป็นการกระทำให้แจ้งซึ่งผล คือ วิชชาและวิมุตติ เป็นการกระทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล สกทาคามิผล อนาคามิผล อรหัตตผล บุคคลผู้เอกเป็นไฉน คือ พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความปรากฏขึ้นแห่งบุคคลผู้เอกนี้แล เป็นความปรากฏแห่งจักษุใหญ่ แห่งแสงสว่างใหญ่ แห่งโอภาสใหญ่ แห่งอนุตตริยะ ๖ เป็นการทำให้แจ้งซึ่งปฏิสัมภิทา ๔ เป็นการแทงตลอดธาตุเป็นอันมาก เป็นการแทงตลอดธาตุต่างๆ เป็นการกระทำให้แจ้งซึ่งผลคือ วิชชาและวิมุตติ เป็นการกระทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล สกทาคามิผล อนาคามิผล อรหัตตผล.
ปัญญามีการส่องสว่างเพื่อรู้ความจริงเป็นลักษณะ
[เล่มที่ 75] พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 332
ก็ปัญญานี้นั้นมีการส่องแสงเป็นลักษณะ และมีการรู้ทั่วเป็นลักษณะ เหมือนอย่างว่า เมื่อบุคคลจุดประทีปให้สว่างในเวลากลางคืนในบ้านที่มีฝา ๔ ด้านความมืดย่อมหมดไป แสงสว่างย่อมปรากฏฉันใด ปัญญามีการส่องสว่างฉันนั้นเหมือนกัน. ธรรมดาแสงสว่างเสมอด้วยแสงสว่างของปัญญาย่อมไม่มี. จริงอยู่ เมื่อมหาบุรุษผู้มีปัญญานั่งโดยบัลลังก์หนึ่ง หมื่นโลกธาตุก็มีแสงสว่างเป็นอันเดียวกัน.
ด้วยเหตุนั้น พระนาคเสนเถระจึงถวายพระพรพระราชาว่ามหาบพิตร ในเวลาที่มืดค่ำแล้ว บุรุษพึงเอาประทีปเข้าไปวางไว้ในบ้าน ประทีปที่นำเข้าไปแล้วย่อมกำจัดความมืด ย่อมยังโอภาสให้เกิดขึ้น ย่อมยังแสงสว่างให้รุ่งโรจน์ ย่อมทำรูปทั้งหลายให้ปรากฏ ฉันใด มหาบพิตร ปัญญา ก็ฉันนั้นเหมือนกัน เมื่อเกิดขึ้นย่อมกำจัดความมืดคือ อวิชชา ย่อมยังโอภาส คือวิชชาให้เกิด ย่อมยังแสงสว่างคือญาณให้รุ่งโรจน์ และย่อมทำอริยสัจจะทั้งหลายให้ปรากฏ มหาบพิตร ปัญญามีการส่องสว่างเป็นลักษณะด้วยประการฉะนี้แล.
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อม แด่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุโมทนาครับ