[เล่มที่ 48] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 165
๑. อิตถิวิมานวัตถุ
จิตตลดาวรรคที่ ๒
๒. ลขุมาวิมาน
ว่าด้วยลขุมาวิมาน
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 48]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 165
๒. ลขุมาวิมาน
ว่าด้วยลขุมาวิมาน
[๑๙] พระมหาโมคคัลลานเถระ ได้ถามเทพธิดาว่า
ดูก่อนนางเทพธิดา ท่านผู้มีรัศมีงามยิ่งส่องสว่างไสวไปทุกทิศ ประดุจดาวประกายพรึก ฉะนั้น เพราะบุญอะไรท่านจึงมีวรรณะเช่นนี้ ฯลฯ และรัศมีของท่านจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.
เทพธิดานั้น ถูกพระโมคคัลลานเถระถามแล้วดีใจ ก็ได้พยากรณ์ปัญหาแห่งกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า
ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ บ้านของดีฉันตั้งอยู่ใกล้ทางออกประตูบ้านชาวประมง ดีฉันมีใจเลื่อมใสในพระอริยะผู้ตรง ได้ถวายข้าวสุก ขนมสด ผักดอง และน้ำเครื่องดื่มเจือด้วยรสต่างๆ แก่พระสาวกทั้งหลายผู้แสวงหาคุณอันใหญ่ยิ่ง ซึ่งกำลังท่องเที่ยวไปในบ้านนั้น ประการหนึ่ง ดีฉันได้เข้ารักษาอุโบสถอันประกอบ ด้วยองค์ ๘ ประการ ตลอดวัน ๑๔ ค่ำ ๑๕ ค่ำ ๘ ค่ำ และตลอดปาฏิหาริยปักษ์ เป็นผู้สังวรด้วยดีในศีลทุกเมื่อ เป็นผู้สำรวมและจำแนกทาน จึงได้ครอบครอง วิมานนี้ เป็นผู้เว้นจากปาณาติบาต เว้นขาดจากการเอาสิ่งของของผู้อื่นด้วยไถยจิต จากการประพฤติล่วงละเมิดในกาม สำรวมจากมุสาวาท และจาก
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 166
การดื่มน้ำเมา เป็นผู้ยินดีในเบญจศีล ฉลาดในอริยสัจ เป็นอุบาสิกาของพระโคดมผู้มีพระจักษุ และพระเกียรติยศ เพราะบุญนั้น ดีฉันจึงมีวรรณะเช่นนี้ ฯลฯ และรัศมีของดีฉันจึงสว่างไสวไปทุกทิศ อีกประการหนึ่ง ท่านเจ้าขา ขอพระคุณเจ้าถวายบังคมพระยุคลบาทของพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยเศียรเกล้า แล้วทูลตามคำของดีฉันว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อุบาสิกาชื่อลขุมาถวายบังคมพระบาททั้งคู่ของพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยเศียรเกล้า ข้าแต่ท่านผู้เจริญู ก็ข้อที่พระผู้มีพระภาคเจ้าพึงทรงพยากรณ์ดีฉันในสามัญผลอย่างใดอย่างหนึ่งนั้นไม่น่าอัศจรรย์ดอกเจ้าค่ะ เพราะพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพยากรณ์ดีฉันไว้ในสกทาคามิผลแล้วเจ้าค่ะ.
จบลขุมาวิมาน
อรรถกถาขุมาวิมาน
ลขุมาวิมานมีคาถาว่า อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน ดังนี้เป็นต้น. ลขุมาวิมานนั้นเกิดขึ้นอย่างไร.
เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ กรุงพาราณสี. พาราณสีนครมีประตูอยู่แห่งหนึ่งชื่อว่าประตูบ้านชาวประมง แม้หมู่บ้านที่ตั้งอยู่ไม่
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 167
ห่างไกลประตูนั้น ก็รู้จักกันว่าประตูบ้านชาวประมงที่ประตูบ้านนั้น มีหญิงคนหนึ่งชื่อลขุมา สมบูรณ์ด้วยศรัทธาและความรู้ เห็นภิกษุทั้งหลายเข้าไปทางประตูนั้น ไหว้แล้วนิมนต์ไปเรือนของตน ถวายภิกขาทัพพีหนึ่ง เพราะความคุ้นเคยนั้นแล เมื่อศรัทธาเพิ่มพูนขึ้นจึงให้สร้างโรงฉันหลังหนึ่ง นำอาสนะเข้าไปถวายภิกษุทั้งหลายที่เข้าไปในโรงฉันนั้น ตั้งน้ำฉันน้ำใช้ไว้ ได้ถวายข้าวสุก ขนมกุมมาส ผักดองซึ่งมีอยู่ใน เรือนแก่ภิกษุทั้งหลาย. นางฟังธรรมในสำนักของภิกษุทั้งหลายตั้งอยู่ในสรณะและศีล เป็นผู้มั่นคง เรียนวิปัสสนากัมมัฏฐาน เมื่อขวนขวายวิปัสสนาอยู่ ไม่นานนักก็ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล เพราะตนถึงพร้อมด้วยอุปนิสัย. เวลาต่อมานางทำกาละตายไปบังเกิดในมหติวิมานภพดาวดึงส์ มีนางเทพอัปสรพันหนึ่งเป็นบริวาร เสวยทิพยสมบัติอยู่ในวิมานนั้นบันเทิงอยู่. ท่านพระมหาโมคคัลลานะเที่ยวเทวจาริกไปได้ถามว่า
ดูก่อนเทพธิดา ท่านผู้มีรัศมีงามสว่างไสวไปทุกทิศ ประดุจดาวประกายพรึก เพราะบุญอะไรท่าน จึงมีวรรณะเช่นนี้และรัศมีจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.
เทพธิดานั้น ถูกพระโมคคัลลานะถามแล้วดีใจ ก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า
บ้านของดีฉันตั้งอยู่ใกล้ทางออกประตูบ้านชาวประมง ดีฉันมีใจเลื่อมใสในท่านผู้ตรง ถวายข้าวสุก ขนมกุมมาส ผักดองและน้ำส้มเจือรสเค็มแก่พระสาวกทั้งหลาย ผู้แสดงหาคุณอันใหญ่ยิ่ง ซึ่งท่องเที่ยว
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 168
อยู่ที่ประตูบ้านชาวประมง ประการหนึ่ง ดีฉันได้เข้ารักษาอุโบสถศีลอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ ตลอดวัน ๑๔ ค่ำ ๑๕ ค่ำ ๘ ค่ำ แห่งปักษ์ และตลอดปาฏิหาริยปักข์ [วันรับส่ง] เป็นผู้สังวรด้วยดีในศีลทุกเมื่อ เป็นผู้สำรวมและจำแนกทาน จึงได้ครอบครองวิมานนี้ ดีฉันเว้นจากปาณาติบาต เว้นจากถือเอาสิ่งของของผู้อื่นด้วยไถยจิต จากการประพฤติล่วงละเมิดในกาม สำรวมจากมุสาวาทและ ห่างไกลจากการดื่มน้ำเมา เป็นผู้ยินดีในเบญจศีล ฉลาดในอริยสัจ เป็นอุบาสิกาของพระโคดมผู้มีพระจักษุ และมีพระเกียรติยศ เพราะบุญนั้นดีฉันจึงมีวรรณะเช่นนี้ เพราะบุญกรรมนั้น ฯลฯ รัศมีของดีฉันจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.
ประการหนึ่ง ขอท่านผู้เจริญ พึงถวายบังคมพระยุคลบาทของพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยเศียรเกล้า แล้วทูลตามคำของดีฉันว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อุบาสิกาชื่อลขุมา ถวายบังคมพระบาททั้งคู่ของพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยเศียรเกล้า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ก็การที่พระผู้มีพระภาคเจ้าพึงทรงพยากรณ์ดีฉันในสามัญผลอย่างใดอย่างหนึ่ง นั่นไม่น่าอัศจรรย์ เพราะพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพยากรณ์ดีฉันในสกทาคามิผลแล้ว.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า เกวฏฺฏทฺวารา นิกฺขมฺม ความว่า ใกล้ที่ออกไปจากประตูบ้านชาวประมง.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 169
บทว่า ฑากํ ได้แก่ ผักดองและกับมีกะเพราเป็นต้น. บทว่า โลณโสวีรกํ ความว่า น้ำปานะอย่างหนึ่งที่เขาปรุงพร้อมด้วยเครื่องปรุงมากอย่างนั้น มีข้าวเปลือกเป็นต้น. บางพวกเรียกน้ำข้าวตังว่า น้ำเกลือก็มี.
เวลาจบการถามและการตอบ นางบรรลุสกทาคามิผลด้วยธรรมเทศนาของพระเถระ. คำที่เหลือเหมือนนัยที่กล่าวมาในอุตตราวิมานนั้นแล.
จบอรรถถถาขุมาวิมาน