พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 320
ประทานโอวาทแก่ภิกษุสงฆ์
[๑๔๑] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งกะท่านพระอานนท์ว่าดูก่อนอานนท์ บางทีพวกเธอจะพึงมีความคิดอย่างนี้ว่า ปาพจน์มีพระศาสดาล่วงแล้ว พระศาสดาของพวกเราไม่มี ข้อนี้พวกเธอไม่พึงเห็นอย่างนั้น ธรรมก็ดี วินัยก็ดีอันใดอันเราแสดงแล้ว ได้บัญญัติไว้แล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาแห่งพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 322
พระปัจฉิมวาจา
[๑๔๓] ลําดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ เราขอเตือนพวกเธอว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา พวกเธอจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด. นี้เป็นพระปัจฉิมวาจาของพระตถาคต.
ท่านพลโทชัชพัชร์: วันนี้เป็น ณ. กาลครั้งหนึ่งที่พระธรรมจะปรากฏซึ่งเป็นตัวธรรม ณ.บ้านรักศรีรักงาม คือบ้านที่รักคุณความดี และรักปัญญาที่เป็นความงามที่ประเสริฐที่สุด ได้ท่านอาจารย์สุจินต์ และคณะ จะนำพระธรรมมาปรากฏ ณ. บ้านนี้
วันนี้นับว่าเป็นโอกาสที่เป็นมงคลสูงสุดที่ครอบครัวแย้มงามเรียบ ซึ่งขณะนี้มีผม และภรรยา แล้วก็ลูกชายเป็นตัวแทน รู้สึกซาบซึ้งในท่านจนหาอะไรเปรียบมิได้ วันนี้จึงขอให้ทุกท่านที่มาร่วมงาน ได้ซักถามข้อธรรมที่สงสัย เพราะว่า ผู้เป็นปรมาจารย์ หรือพหูสูตรในพระอภิธรรมในเมืองไทยหายากนะครับ
เพราะฉะนั้น วันนี้เป็นโอกาสดี อย่าทิ้งโอกาสอันมีค่าอันนี้ ได้โปรดซักถาม ผมจะให้โอกาสผู้ไหม่ หรือผู้ที่อยากมีความเข้าใจความจริงซึ่งเป็นตัวธรรมเพิ่มขึ้น ได้กรุณาซักถาม อย่าได้ปล่อยโอกาส เวลา ผ่านไปโดยเสียโอกาส วันนี้ถือเป็นมงคลสูงสุดของครอบครัวผม แล้วก็ ณ. สถานที่แห่งนี้ ขอกราบท่านอาจารย์ และคณะอ.วิทยากรอีกครั้งหนึ่ง
ความมุ่งหมายที่เชิญท่านอาจารย์ มีคนถามว่า เชิญท่านอาจารย์สุจินต์มาทำไม ผมบอกว่า ท่านอาจารย์มาเป็นผู้อ่านสาส์นพระราชา นำตัวธรรมมาให้พวกเราเข้าใจเพิ่มขึ้น วันนี้ก็ขอเชิญนะครับ และก็สนทนา ความมุ่งหมายผมถามท่านอาจารย์ว่า ไม่ได้มาบรรยายธรรม ท่านมาสนทนาธรรม เพราะฉะนั้น การสนทนาธรรม คือการสนทนาเพื่อให้เกิดปัญญาความเข้าใจความจริงที่กำลังปรากฏเดี๋ยวนี้ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ทีละหนึ่ง ซึ่งยากที่จะเข้าใจ ยากมากนะครับ แต่ท่านบอกว่า แต่เข้าใจได้ จะต้องมีความอดทน และความเพียร
ท่านอาจารย์: ทุกคำ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกคนเคยได้ยินแน่นอน แต่ว่า เข้าใจหรือเปล่า? และเข้าใจแค่ไหน? เข้าใจนี่ ต้องรู้ว่า ที่กล่าวคำนี้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่ใครเลยที่สามารถที่จะกล่าว คำ ที่แสดงถึงความเป็นจริง ซึ่งกำลังมีทุกขณะด้วย ไม่เคยขาดเลย แต่ไม่รู้เลยนานแสนนานกี่อสงไขยแสนกัปป์ก็ไม่รู้
จากการที่ได้ยินอย่างนี้ เชื่อไหม? ก็ต่อเมื่อได้ฟัง คำ ของพระพุทธเจ้าแล้วเข้าใจไหม? ถ้าฟังแล้วไม่เข้าใจ ก็หมายความว่าเคยเข้าใจอะไรมาก่อนทั้งๆ ที่ได้ฟังเยอะเยะ
เพราะฉะนั้น ถ้าเริ่มเข้าใจเมื่อไหร่ เริ่มรู้จักพระคุณที่สูงยิ่งของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
เพราะฉะนั้น ทุกคำ พระองค์ทรงแสดง ๔๕ พรรษา แต่ละคำ ฟังแล้วเข้าใจแค่ไหน? พอไหม? เข้าใจอีกๆ ๆ ๆ จนกว่าจะประจักษ์แจ้งความจริงตามที่พระองค์ตรัสทุกคำ
น่าอัศจรรย์ไหม? ขณะนี้มีทุกสิ่งทุกอย่างปรากฏ เข้าใจอะไรสักอย่างไหม? กำลังเห็นนี่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่าอย่างไร พอตรัสแล้ว ความจริงของเห็นเดี๋ยวนี้เป็นอย่างนั้น แต่ยังไม่ได้ประจักษ์ตามที่พระองค์ได้ทรงตรัสรู้
เพราะฉะนั้น พระองค์ทรงแสดงหนทาง ไม่ใช่บอกเฉยๆ ว่า เป็นอะไร แต่หนทางที่จะมีความเข้าใจความลึกซึ้ง คำนี้ทิ้งไม่ได้ ความลึกซึ้งอย่างยิ่งของธรรม
เพราะฉะนั้น พระธรรม คืออะไร? คำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงให้เข้าใจความลึกซึ้ง แล้วใครเริ่มเข้าใจความลึกซึ้งบ้างแล้วหรือยัง? คำว่า ธรรม คำเดียว ลึกซึ้งไหม? ไม่เห็นลึกซึ้งเลย ได้ยินบ่อยๆ กุศลธรรม อกุศลธรรม อยุติธรรม ยุติธรรม ได้ยินทั้งนั้น แต่ ธรรมคำเดียว ทีละหนึ่งคำ ลึกซึ้งสุดที่จะประมาณได้ เพราะมีจริง แต่ไม่รู้
ขอเชิญฟังได้ที่ ...
ความยากของการเจริญปัญญา
ฟังด้วยความเคารพ
พระเจ้าปุกกุสาติ (ธาตุวิภังคสูตร) ๒
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ และกราบยินดีในความดีของท่านพลโทชัชพัชร์ - คุณกนกรัตน์ แย้มงามเรียบ ด้วยความเคารพค่ะ
ยินดีในกุศลจิตครับ