กาลที่ภัยเกิด
นั่งตรงนี้เห็นภัยหรือไม่ เพราะเห็นภัยในสังสารวัฏฏ์จึงฟังธรรม แต่ขณะฟังธรรมก็ยังไม่เห็นภัยเพราะลึกซึ้ง
การปรากฏของโทษภัย
เพียงมีสิ่งที่ปรากฏยังไม่เป็นโทษ แต่โทษจะปรากฏเมื่อติดข้องในสิ่งที่ปรากฏ
อ่านข้อความเตือนสติ ทั้งหมดจากเทวตา สูตร..ข้อความเตือนสติเรื่องเทวตาสูตร
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของคุณ wittawat ด้วยครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
เหตุไฉนจึงกล่าวว่า เพราะเห็นภัยในสังสารวัฏฏ์จึงฟังธรรม แต่ขณะฟังธรรม ก็ยังไม่เห็นภัยเพราะลึกซึ้งครับ
1.เห็นภัยครั้งแรกหมายถึงอะไรครับ
2.ขณะฟังธรรมทำไมไม่เห็นภัยครับ
3.เวลาเลิกฟังธรรมจึงเห็นภัยใช่หรือไม่ครับ เพราะไม่ใช่ขณะที่ฟังธรรม
4.ท่านพระสาวกที่ฟังธรรมแล้วบรรลุธรรม ขณะพังธรรมยังไม่เห็นภัยใช่หรือไม่ครับ
ต้องฟังพระธรรมจบแล้วจึงเห็นภัยใช่ไหมครับ ขอคำชี้แนะด้วยครับ
ขอบพระคุณมาก และขออนุโมทนาครับ
ตามความเข้าใจของผม
ข้อความทั้งหมดเป็นข้อความเตือนสติที่สนทนาในชั่วโมงพระสูตรครับ อาจมีการตัดบางส่วนมา ซึ่งบางครั้งก็ไม่ได้หมายถึงผู้มีปัญญาที่เป็นอุคติตัญญูบุคคล หรือวิปัญจตัญญูบุคคลนะครับ แต่หมายถึงผู้ที่ฟังธรรม ที่ศึกษาวันนี้ ที่เข้าใจธรรมเพียงเฉพาะเรื่องราว แต่ไม่ได้เข้าใจสภาพธรรมแท้ๆ เพราะมีความลึกซึ้ง
เพราะฉะนั้น ข้อสำคัญคือ ไม่ใช่ฟังธรรมแล้วติดที่เรื่องราว แต่เพื่อความเข้าใจครับ ขออาจารย์วิทยากร ช่วยเพิ่มเติมความรู้ให้คุณความเห็นที่ ๕ ด้วยนะครับ คำถามข้อที่ ๔ นั้น ไม่ถูกต้องนะครับ ถ้ารู้แจ้งอริยสัจธรรมแล้ว ปัญญาที่แทงตลอด ถ้าไม่เห็นโทษภัยของอกุศล จะละโทษภัยของอกุศลไม่ได้ครับ
เรียนความเห็นที่ 5 ครับ
1.เห็นภัยครั้งแรกหมายถึงอะไรครับ
การเห็นภัย เห็นด้วยปัญญา ซึ่งปัญญาก็มีหลายระดับ ดังนั้น ความเห็นโดยความเป็นภัย คือ เห็นสภาพธรรมที่เกิดขึ้นและดับไป ไม่เที่ยง เป็นภัย เป็นสิ่งที่น่ากลัว ขณะนี้มีสภาพธรรม ที่เกิดขึ้นและดับไป ยังไม่เห็นโดยความเป็นภัย ดังนั้น ภัยครั้งแรกเกิดแล้ว เมื่อสภาพธรรมเกิดขึ้น
2.ขณะฟังธรรมทำไมไม่เห็นภัยครับ
ขณะที่ฟังธรรมมีสภาพธรรมทีเกิดขึ้นและดับไป ซึ่งสภาพธรรมทีเกิดขึ้นและดับไป เป็นภัย เป็นสิ่งที่น่ากลัว เพราะนำมาซึ่งความน่ากลัวประการต่างๆ มีการได้รับทุกข์ เพราะมีสภาพธรรมที่เกิดขึ้นและดับไปครับ ดังนั้นขณะที่ฟังธรรม มีสภาพธรรมทีเกิดขึ้น แต่ไม่เห็นว่าเป็นภัย เพราะปัญญาไม่เกิด ไม่เกิดปัญญาที่เป็น ภยญาณ ที่เป็นปัญญาระดับสูงในการเห็นภัยของสภาพธรรมทีเกิดดับคัรบ ขณะนี้ฟังธรรมหรือไม่ฟังธรรม ก็ยังไม่มีปัญญาเห็นว่าสภาพธรรมว่าเป็นภัยครับ
3.เวลาเลิกฟังธรรมจึงเห็นภัยใช่หรือไม่ครับ เพราะไม่ใช่ขณะที่ฟังธรรม
โดยนัยเดียวกัน เมื่อปัญญาที่เป็นภยญาณไม่เกิด จะฟังธรรมหรือไม่ฟังธรรมก็ไม่เห็นว่าสภาพธรรมในขณะนี้ว่าเป็นภัยครับ
4.ท่านพระสาวกที่ฟังธรรมแล้วบรรลุธรรม ขณะพังธรรมยังไม่เห็นภัยใช่หรือไม่ครับ
พระอริยสาวกทีได้บรรลุธรรมต้องมีปัญญาเห็นสภาพธรรมที่เป็นภัย คือ ภยญาน ที่เป็นวิปัสสนาญาณทุกท่านครับ ดังนั้นท่านจะฟังหรือไม่ฟัง เมื่อได้บรรลุแล้ว ท่านก็รู้ความจริงว่าสภาพธรรมทีเกิดขึ้นและดับไปเป็นภัยครับ เพราะท่านถึงวิปัสสนาญานที่เป็นภยญานแล้วนั่นเอง ครับ
ขออนุโมทนา