ธรรมดาวัณณรูป เราจะมองเห็น เลยอยากทราบว่า เทวดามีวัณณรูป หรือไม่ เหตุใดมองไม่เห็น
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ที่บัญญัติว่า มีสัตว์ บุคคล เป็นมนุษย์ เป็นเทวดา เพราะ การปะชุมรวมกันของ สภาพธรรมที่เป็น จิต เจตสิก และ รูปเกิดขึ้น จึงสมมติเรียกว่า คน สัตว์ เทวดา เป็นต้น หากแต่ว่า แม้เทวดา ก็มีรูปธรรมเกิดขึ้นเช่นกัน ซึ่งตามธรรมดาของ รูปธรรมที่เกิดขึ้นของเทวดานั้น ก็เป็นรูปที่เกิดจากหลายสมุฏฐาน ทั้ง กรรม จิต อุตุ และ อาหาร แต่ ควรเข้าใจความจริงว่า เทวดานั้น เกิดจากผลของกุศลกรรม ที่ประณีตกว่ามนุษย์ รูปของเทวดา ที่เกิดขึ้นจากกรรม รวมทั้งรูปอื่นๆ ที่เกิดจาก สมุฏฐานอื่น ก็ละเอียด ประณีต ตามไปด้วย แต่ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม รูปของ เทวดา ก็ต้องมีอย่างน้อย ๘ รูป ที่เป็นกลุ่มของรูปที่เล็กที่สุด ที่เรียกว่า อวินิพโภครูป อวินิพโภครูป คือ รูปที่ไม่มีความเป็นไปแยกออกจากกัน หมายถึง กลุ่มของรูป ๘ รูป (สุทธัฏฐก กลาป) ซึ่งเป็นส่วนที่เล็กที่สุดของรูป ที่ไม่สามารถแยกออกจาก กันได้ ได้แก่ ดิน น้ำ ไฟ ลม สี กลิ่น รส โอชา
ซึ่ง สี ก็เป็น วัณณรูป ที่เป็นสภาพธรรมที่ปรากฎได้เฉพาะทางตา เป็นปัจจัยให้เกิด การเห็นเกิดขึ้น เพราะฉะนั้น เทวดา ก็ต้องมีรูปธรรมเกิดขึ้น มี กลุ่มของรูปที่เล็ก ที่สุดด้วย ที่เป็น อวินิพโภครูป จึงมี สี ที่เป็นวัณณรูปด้วย ซึ่ง ตามที่ผู้ถามได้ถามว่า เหตุใด ทำไมจึงมองไม่เห็นเทวดา ซึ่ง ตามที่กล่าวมาแล้วข้างตน ครับว่า เทวดา แม้ จะมี สี วัณณรูป ที่สามารถปรากฎได้ทางตา แต่ รูปของเทวดานั้น เป็นรูปที่ละเอียด ประณีตมาก ตามกรรมปรุงแต่ง ให้รูปนั้นประณีต เพราะฉะนั้น เหตุให้เกิดการเห็น ไม่ใช่มีเพียง สี วัณณรูปเท่านั้น แสงสว่าง และ จะต้องมีจักขุปสาทรูป ด้วย และ จักขุปาทรูปนั้น ก็ต้องเหมาะกับ สี วัณณรูปที่จะเห็นได้ด้วย ดังนั้น จักขุปสาทรูป ของมนุษย์ เป็นรูปที่ไม่ประณีตเท่าของเทวดา จึงไม่สามารถที่จะเห็นเทวดาได้ แม้ มีสี แต่ วัณณรูป หรือ สีนั้นละเอียดมาก ประณีตมาก ต้องอาศัย จักขุปสาทรูป กระทบได้ กับ สีที่ประณีต ด้วย จักขุปสาทรูปที่ละเอียด ประณีตเช่นกันครับ ดังนั้น เทวดาด้วยกัน ก็เห็นด้วยกันได้ เพราะ จักขุปสาทรูป ของเทวดาด้วยกัน ละเอียด ประณีต จึงสามารถเห็น รูป คือ สี ที่เป็น วัณณรูปได้ ครับ แต่ มนุษย์ ไม่สามารถ เห็น เทวดาได้ เพราะ จักขุปสาทรูปของมนุษย์ ไม่ประณีตเพียงพอที่จะเห็น วัณณรูป ของเทวดา และ เทวดาทั้งหลาย ก็ไม่สามารถที่จะเห็นพรหมได้ เพราะ ความละเอียด ประณีตของรูป ที่เกิดเป็นพรหม ละเอียด ประณีตเกิน จักขุปสาทของเทวดา จน กว่า ที่ พรหมจะเนรมิตกายหยาบ ก็สามารถทำให้เห็นกายของพรหมได้ ครับ เช่น เดียวกับเทวดา ที่มนุษย์จะเห็นได้ ก็เพราะ เทวดาเนรมิตกายหยาบ ครับ
ขออนุโมทนา ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ความเกิดขึ้นเทวดา ซึ่งเป็นโอปปาติกกำเนิด เกิดโตทันที มีรูปธรรมซึ่งเกิดเพราะ กรรมเป็นปัจจัย เกิดทันที ๗ กลาปะหรือ ๗ กลุ่ม ได้แก่ หทยทสกกลาป ๑ กายทสกกลาป ๑ ภาวทสกกลาป ๑ จักขุทสกกลาป ๑ โสตทสกกลาป ๑ ฆานทสกกลาป ๑ ชิวหาทสกกลาป ๑ ซึ่งเมื่อประมวลแล้ว ก็ไม่พ้นไปจากรูปธรรม มีธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม พร้อมกับรูปอื่นๆ ด้วย เป็นต้น ซึ่งแสดงถึงความเกิดขึ้นเป็นไปของ สภาพธรรมแต่ละอย่างๆ จริงๆ ไม่มีสัตว์ บุคคลตัวตนเลย แม้แต่น้อย มีแต่ธรรม เท่านั้น จากความเข้าใจพื้นฐาน ก็เข้าใจแล้วว่า รูปทุกกลุ่มที่เกิดขึ้นเป็นไป จะไม่ปราศ จากสี หรือ วัณณรูป เลย ไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่ใด ก็ตาม
การเกิดเป็นเทวดาในสวรรค์ชั้นต่างๆ เป็นผลของกุศลกรรมที่ประณีต แม้โดยปกติ มนุษย์จะไม่เห็นเทวดา แต่ประโยชน์อยู่ตรงไหน ก็คือ เข้าใจความเป็นจริงของธรรม ที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ตามควรแก่ธรรมประเภทนั้นๆ ซึ่งไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชา ของใครทั้งสิ้น และ เพิ่มพูนความมั่นคงในความเป็นเหตุเป็นผลได้ว่า เหตุที่ดี ก็ย่อม ให้ผลเป็นผลที่ดี เท่านั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่เหตุดีแล้วจะให้ผลเป็นผลที่ไม่ดี เมื่อเข้า ใจถูกเห็นถูกอย่างนี้ก็จะเกื้อกูลต่อการเป็นผู้ไม่ประมาทในอกุศล และไม่ประมาทในการ เจริญกุศลในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ให้เข้าใจ ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ที่มองไม่เห็นเทวดาเพราะเป็นคนละภพภูมิกัน เทวดามีกายละเอียดประณีต ไม่ สามารถเห็นได้จากตาคนธรรมดา นอกจาก ผู้ที่อบรมสมถภาวนา มีปัญญา จึง จะเห็นได้ค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ