* โรค คือสภาพที่ป่วย ไม่สบาย เป็นทุกข์ เดือดร้อน ซึ่งมีทั้งโรคทางกาย คือความป่วยไข้ต่างๆ และโรคทางใจ คือกิเลสที่เสียดแทงประทุษร้ายจิต และนำมาซึ่งทุกข์ โทษ ภัย ต่างๆ
* บางคนสุขภาพดี อาจไม่มีโรคทางกายเป็นเวลาหลายๆ ปีก็ได้ แต่ผู้ที่จะไม่มีโรคทางใจ คือกิเลส แม้เพียงชั่วครู่เดียวนั้น หาได้ยากในโลก
* พระพุทธพจน์ว่า "ความไม่มีโรคเป็นลาภอย่างยิ่ง" นั้น ไม่ได้หมายถึงการไม่มีโรคทางกาย แต่หมายถึงการไม่มีโรคทางใจ เพราะได้อบรมเจริญปัญญารู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง สามารถดับโรคคือกิเลส ที่สะสมในจิตได้ตามลำดับ จนหมดสิ้นเป็นพระอรหันต์ ซึ่งจะไม่มีโรคทางใจคือกิเลสอย่างสิ้นเชิง และไม่ต้องเกิดมาเป็นโรคอะไรๆ อีกเลย
* เภสัชยาที่ปรุงขึ้น เพื่อรักษาโรคทางกาย ไม่อาจจะรักษาโรคทางใจ คือกิเลสได้เลย แต่พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ดีแล้ว เปรียบเหมือนยาที่สามารถรักษาโรคกิเลสได้ตามความเป็นจริง ถ้าเป็นผู้ที่รู้คุณของพระธรรม ฟังพระธรรม เข้าใจในความเป็นธรรมที่ไม่ใช่เรา ไปตามลำดับ
"พระพุทธเจ้าเปรียบเหมือนแพทย์ผู้ฉลาด เพราะทรงสามารถกำจัด พยาธิคือกิเลสพร้อมทั้งอนุสัย (พืชเชื้อกิเลสที่สะสมในจิต) ออกได้ พระธรรมเปรียบเหมือนเภสัชยาที่ทรงปรุงถูกต้องแล้ว พระสงฆ์ผู้มีพยาธิคือกิเลสและอนุสัยอันระงับแล้ว เปรียบเหมือนหมู่ชนที่พยาธิระงับแล้ว เพราะประกอบยา"
โดย อ.อรรณพ หอมจันทร์
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... คติธรรม
ขออนุโมทนาครับ
กราบอนุโมทนา ค่ะ
กราบอนุโมทนาค่ะ