ในครั้งพุทธกาลมีผู้ที่ติดเหล้าแล้วยังบรรลุธรรมได้ใช่ไหมครับ อยากอ่านหรือฟังเรื่องนี้ครับ
เชิญคลิกอ่าน ...
ผู้ถึงสรณคมน์ไม่ไปสู่วินิบาต [ปฐมสรกานิสูตร]
ผมได้อ่านพระสูตรที่มูลนิธิฯ นำมาแสดงให้เข้าใจได้ว่า เจ้าสรกานิศากยะสมา-ทานสิกขาในเวลาก่อนสิ้นพระชนม์ สิกขาในที่นี้ต้องหมายถึง ศีล สมาธิ ปัญญา ที่เป็นวิสุทธิ หรือ ในโสดาปัตติมรรค เพราะฉะนั้น การติดเหล้าของเจ้าสรกานิ ต้องแยกพิจารณาว่าจิตในขณะดื่มเหล้าเป็นอกุศล ในขณะเมาเป็นอกุศล แต่การสะสมฟังธรรมที่ให้ถึงความเป็นอริยะในวันที่บรรลุธรรม ทั้งวันที่ฟังธรรมในอดีตล้วนต้องเป็นกุศลและการฟังธรรมก่อนบรรลุต้องฟังโดยเข้าใจ นั้นหมายถึง การสมาทานอาจหาญร่าเริงรวมถึงการสมาทานสิกขาพร้อมด้วย แต่หากบุคคลใดดื่มเหล้าจนติด แล้วได้ฟังธรรมที่ถูก เพื่อให้ถึงความเป็นอริยะแต่เพิ่งเริ่มฟัง ก็อาจเลิกชั่วคราวในชาตินี้ได้ แต่ชาติอื่นก็ไม่แน่อีก ขึ้นอยู่กับการสะสม
ธรรมมะสอนให้เรารู้ว่า สุราไม่ดี มีโทษ ก็หมายถึงว่า ให้เห็นโทษของกิเลส คือ โลภะ ความติดในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และอื่นๆ จึงควรศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ ก็จะตอบได้ว่ากำลังปัญญาของตัวเรา จะงดเว้นสุราได้มากน้อยเพียงไร ในการศึกษาฟังพระธรรมก่อนจะถึงวันบรรลุธรรม แต่ไม่ใช่ให้เข้าใจผิดว่า คนในยุคนี้ต้องเลียนแบบเจ้าสรกานิ ต้องศึกษาให้ดี เพราะบางท่านฟังธรรมยังไม่บรรลุ แต่ชาตินี้ก็เลิกดื่มเหล้าก็ทำให้ศึกษาธรรมสะดวก มีความสุขในปัจจุบันชาติ แต่บางท่านยังเลิกไม่ได้ก็ไม่แปลก ก็ฟังธรรมต่อไปด้วยความเข้าใจและเคารพ เพราะการสะสมสัมมาทิฏฐิ ไม่ได้อยู่ที่จะต้องเลิกดื่มเหล้าเสียก่อนเท่านั้น จึงจะฟังธรรมได้รู้เรื่องและเข้าใจ
อนุโมทนาท่านผู้ให้ความคิดเห็นทุกท่าน และคุณประภาสที่แปลทำให้เข้าใจมากขึ้น โดยเฉพาะดิฉันที่อ่านข้อความในพระไตรปิฎกแล้วไม่เข้าใจ
เป็นหัวข้อที่ควรศึกษาอย่างละเอียด
ขออนุโมทนาครับ