[เล่มที่ 35] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้า 558
วรรคที่ไม่สงเคราะห์เป็นปัณณาสก์
สัปปุริสวรรคที่ ๑
๗. ปฐมปาปธัมมสูตร
ว่าด้วยคนชั่วยิ่งกว่าคนชั่ว
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 35]
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้า 558
๗. ปฐมปาปธัมมสูตร
ว่าด้วยคนชั่วยิ่งกว่าคนชั่ว
[๒๐๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงคนชั่ว และคนชั่วยิ่งกว่าคนชั่ว กับคนดี และคนดียีงกว่าคนดี ท่านทั้งหลายจงฟัง ทำในใจให้ดี เราจักกล่าว
ภิกษุทั้งหลายรับพระพุทธพจน์แล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า คนชั่ว เป็นไฉน? บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้ทำปาณาติบาต อทินนาทาน กาเมสุมิจฉาจาร พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ มีอภิชฌา มีจิตพยาบาท มีความเห็นผิด นี้เรียกว่า คนชั่ว.
คนชั่วยิ่งกว่าคนชั่ว เป็นไฉน? บุคคลบางคนเป็นผู้ทำปาณาติบาต ฯลฯ มีความเห็นผิดด้วยตนเองด้วย ชักชวนผู้อื่นให้เป็นอย่างนั้นด้วย นี้เรียก ว่า คนชั่วยิ่งกว่าคนชั่ว
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้า 559
คนดีเป็นไฉน บุคคลบางคนเป็นผู้เว้นจากปาณาติบาต ฯลฯ มีความเห็นชอบ นี้เรียกว่า คนดี.
คนดียิ่งกว่าคนดี เป็นไฉน? บุคคลบางคนเป็นผู้เว้นจากปาณาติบาต ฯลฯ มีความเห็นชอบด้วยตนเองด้วย ชักชวนผู้อื่นให้เป็นอย่างนั้นด้วย นี้เรียกว่า คนดียิ่งกว่าคนดี.
จบปฐมปาปธัมมสูตรที่ ๗
อรรถกถาปฐมปาปธัมมสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในปฐมปาปธัมมสูตรที่ ๗ ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า ปาปํ ได้แก่ คนลามก คือบุคคลเศร้าหมอง. บทว่า กลฺยาณํ ได้แก่ คนเจริญ คือบุคคลไม่มีโทษ. คำที่เหลือในสูตรนี้ง่ายทั้งนั้น.
จบอรรถกถาปฐมปาปธัมมสูตรที่ ๗