เรื่องของเรื่องคือ เรารักสัตว์ที่เราเลี้ยงมากคนอื่นจะมองมันยังงัย ว่ามันไม่น่ารักยังงัย เราก็ไม่สนใจเพราะมันคือสิ่งสวยงามของเราเสมอไม่รังเกียจ แม้มันจะขี้ จะเยี่ยว เลอะเทอะ ไม่เคยรำคาญ ที่ตามเช็ด ตามเก็บให้ไม่เคยเหนื่อย เวลาพามันไปหาหมอ เวลามันป่วย เวลาทำงาน แค่นึกถึงมัน ก็ชื่นใจทำงานเสร็จ ก็รีบกลับบ้าน ไปกอด ไปหอมมัน ตัวมันเลอะขี้ เลอะเยี่ยว ก็จับมากอด มาหอม ไม่รู้สึกเหม็นเลยเวลาห่างกันเกิน2 วัน ก็คิดถึงแทบขาดใจ มีความสุขอย่างมากมาย เวลาได้หายใจ และอยู่ใกล้ๆ กับมันเรา " รัก " จริงๆ ค่ะ แบบนี้เรียกรักแท้ ได้หรือป่าวคะ
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงพระธรรมให้สาวกทั้งหลายละสมุทัย เพราะสมุทัยเป็นเหตุของทุกข์ทั้งปวง ฉะนั้นความรักความผูกพันความติดข้อง เป็นโลภะ เป็น
สมุทัย เป็นเหตุของทุกข์ ไม่ควรพอใจในความรักความผูกพันความติดข้อง
ไม่ว่าจะเป็นความรักประเภทใดล้วนเป็นโลภะ เป็นความติดข้องและเป็นทุกข์ ต่างจากเมตตาการประสบกับสิ่งที่ไม่รักไม่ชอบเป็นทุกข์การพลัดพรากจากสิ่งที่รักที่ชอบเป็นทุกข์
ความรัก และความสุขใจ เป็น ธรรมะแต่ละชนิดที่เกิดได้ มีจริงในชีวิตประจำวัน
พระผู้มีพระภาคทรงแสดง ให้เห็นโทษในความไม่รู้ จึงยึดถือธรรมะทุกอย่าง (รูปนาม)
ว่าเป็นเรา เช่น เวทนา เมื่อไม่รู้ตามความเป็นจริง ก็ยึดถือว่าเราสุขใจ เราสุขกาย
เราทุกข์ใจ เราทุกข์กาย เรารู้สึกเฉยๆ
ความรัก ความสุขใจ (สุขเวทนา) เกิดได้กับจิต ทั้งอกุศลและกุศล
ขณะใดมีความสุขใจเกิดร่วมกับความรัก ด้วยการยึดถือ ผูกพัน ติดข้อง ต้องการไม่ได้เสียสละความติด ก็เป็นอกุศลจิต
ขณะใดมีความสุขใจเกิดร่วมกับความรัก เป็นมิตร การเสียสละ อนุเคราะห์ ช่วย
เหลือ ให้อภัย ไม่ผูกพัน ไม่ยึดถึอ ไม่ติดข้อง เป็นกุศลจิต (เป็นไปกับ ทาน ศีล
หรือภาวนา) หากไม่ได้ฟังธรรมของพระอริยะแล้ว ก็ไม่รู้ว่าความรัก หรือเวทนาทั้ง
หมด สุข หรือ ทุกข์
เมื่อเกิดขึ้น ขณะใดเป็นธรรมฝ่ายกุศลหรืออกุศล ก็เจริญธรรมะนั้นผิด คิดว่าสุข
ในอกุศลเป็นธรรม ไม่มีโทษ แต่เวทนาไม่ว่า สุข ทุกข์ อุเบกขา ทั้งกุศลและอกุศล
ล้วนเกิดแล้วก็ดับทันที
เมื่อไม่รู้ว่าเป็นธรรมะ ความแสวงหาสุขเวทนา ด้วยตัวตนก็เจริญ จนความทุกข์
เวทนาก็เกิด เพราะไม่ได้ตามตัวตนที่ต้องการ เพราะไม่รู้ความจริงว่า ไม่มีตัวตน เป็น
เพียงธรรมเกิดตามเหตุและปัจจัยของธรรมะนั้นๆ แล้วก็ต้องดับไป ด้วยเหตุนี้จึงขาด
การฟังธรรมไม่ได้ การฟังพระธรรมจึงเป็นสิ่งประเสริฐ ให้กุศลเจริญ ปัญญาเจริญได้
ถูกต้อง เป็นเหตุให้เจริญกุศลได้ทุกขั้น ไม่ใช่ต้องความรัก ความสุขมากๆ โดยไม่รู้
ว่าสุขก็เป็นเหตุให้เกิดทุกข์ เพราะไม่รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง
...ที่ว่ารักแท้นั้น ความจริงรักแค่ไหน? รักแท้คือรักใคร?
ข้อความจาก นัตถิปุตตสมสูตร มีดังนี้ เทวดากล่าวคาถานี้ในสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า:- ความรักเสมอด้วยบุตร ไม่มี ทรัพย์เสมอด้วยโค ย่อมไม่มี แสงสว่างเสมอด้วยดวงอาทิตย์ ย่อมไม่มี สระทั้งหลายมีทะเล..เป็นอย่างยิ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า:- ความรักเสมอด้วยตน ไม่มี ทรัพย์เสมอด้วยข้าวเปลือก ย่อมไม่มี แสงสว่างเสมอด้วยปัญญา ย่อมไม่มี ฝนต่างหากเป็นสระ ยอดเยี่ยม
เชิญคลิกอ่านได้ที่นี่...
รักมีเท่าไรทุกข์ก็มีเท่านั้น