เคยเข้าปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน /207
โดย สารธรรม  25 พ.ย. 2565
หัวข้อหมายเลข 45213

ถ. ท่านผู้หนึ่งเคยเข้าปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน ต่อมาท่านได้ฟังท่านอาจารย์สุจินต์บรรยาย ท่านก็ว่าถูก อาจารย์สุจินต์อธิบายไม่มีผิดเลยสักอย่างเดียว แต่ท่านก็ไปเข้าห้องปฏิบัติใหม่ ท่านกลับออกมาก็กล่าวว่า เรื่องขับรถยนต์รู้ไม่ได้แน่ เจริญสติไม่ได้แน่ นี่ก็เป็นปัญหาเก่าแก่ว่า ทำไมขับรถยนต์จึงเจริญสติไม่ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้บอกว่าเข้าใจดีแล้ว แต่พอเข้าปฏิบัติกลับมาใหม่ บอกว่าเจริญสติไม่ได้แน่ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน

สุ . เป็นเรื่องที่จะต้องเข้าใจให้ถูกต้องว่า การรู้สภาพธรรมที่จะทำให้เป็นพระอริยบุคคลได้นั้น รู้สภาพธรรมอะไร เป็นเรื่องที่ท่านผู้ฟังจะต้องพิจารณาอยู่เสมอ มิฉะนั้นท่านก็จะพยายามรู้สิ่งอื่นซึ่งไม่สามารถที่จะทำให้รู้ชัดในสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริงได้

ท่านผู้ฟังท่านหนึ่งสนใจในการปฏิบัติ ท่านเคยไปปฏิบัติที่สำนักปฏิบัติต่างๆ และก็ฟังเรื่องของการเจริญสติปัฏฐาน ท่านผู้นั้นกล่าวว่า ฟังเท่าไรๆ ก็ไม่เข้าใจ ท่านถามว่า ขณะที่กำลังเห็นเดี๋ยวนี้จะเจริญสติปัฏฐานได้อย่างไร นี่หรือคือผลของการไปสู่สำนักปฏิบัติหลายครั้งในเวลาสิบปี แต่ไม่ทราบว่า ที่กำลังเห็นขณะนี้สติจะระลึกรู้ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรมได้อย่างไร ถ้าเป็นผู้ที่เจริญสติปัฏฐานจะสงสัยไหมว่า กำลังเห็นอย่างนี้จะเจริญสติได้อย่างไร หรือว่าสติจะระลึกรู้ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรมได้อย่างไร

ผู้ที่ไปสู่สำนักปฏิบัติมักจะยกข้ออ้างข้อหนึ่งว่า ไปเพราะว่าที่นั่นมีครูบาอาจารย์ที่จะให้ความรู้ความเข้าใจในข้อปฏิบัติได้อย่างใกล้ชิด แต่ผลคือไม่ทราบว่า กำลังเห็นปกติธรรมดาอย่างนี้จะเจริญสติปัฏฐานได้อย่างไร

เมื่อได้ชี้แจง อธิบายให้ท่านผู้ฟังท่านนั้นเข้าใจ ท่านก็เห็นด้วย ท่านจะทิ้งความคิดเก่าๆ ซึ่งปิดบังไม่ให้สติเกิดขึ้นเป็นปกติที่จะระลึกรู้ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรมที่กำลังปรากฏตามเหตุปัจจัย ตามความเป็นจริง

ท่านผู้ฟังท่านนั้น ท่านเริ่มต้นด้วยการที่ว่า ขับรถยนต์เจริญสติปัฏฐานได้อย่างไร คือ มีความสงสัย และไม่เชื่อว่าเจริญสติปัฏฐานได้ โลกที่เป็นรถยนต์เพิ่มขึ้นมาอีกจากทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจได้อย่างไร ในเมื่อไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น จะเป็นของใหม่ของเก่าอย่างไรก็ตาม อีก ๑๐๐ ปี ๑,๐๐๐ ปี สภาพธรรมที่ไม่ใช่ตัวตนที่สติสามารถจะระลึกรู้ได้ ก็มีทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ในรถยนต์มีอ่อน มีแข็ง มีสี มีเสียง มีกลิ่น มีรส มีโผฏฐัพพะไหม มีทุกขเวทนา สุขเวทนาที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยซึ่งสติสามารถที่จะระลึกรู้ได้ไหม

เป็นเรื่องที่ท่านผู้ฟังจะได้พิจารณาว่า เพราะเหตุใดผู้ที่ไปสู่สำนักปฏิบัติแล้วหลายครั้งจึงกล่าวว่า ขณะที่กำลังเห็นเป็นปกติอย่างนี้ จะเจริญสติปัฏฐานได้อย่างไร เป็นความสงสัย เป็นความไม่รู้ในการเจริญสติปัฏฐาน ไม่ได้ช่วยทำให้มีความเข้าใจที่ถูกต้องในการเจริญสติปัฏฐาน และสติก็ไม่ได้เจริญด้วย ถ้าเป็นปัญญาจริงๆ แล้ว ทำไมจะรู้ไม่ได้ ในเมื่อเห็นที่ไหนก็เป็นสภาพรู้ทางตา หรือว่าสิ่งที่ปรากฏ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน สิ่งที่ปรากฏก็เป็นแต่เพียงของจริงที่ปรากฏทางตาเท่านั้น หรือว่าได้ยินจะเป็นที่ไหน สติก็สามารถที่จะเกิดขึ้นระลึกรู้ลักษณะสภาพที่เป็นนามธรรม ที่กำลังรู้เสียงว่าไม่ใช่ตัวตน และรู้ว่าเสียงก็เป็นแต่เพียงสภาพธรรมของจริงชนิดหนึ่งที่ปรากฏเฉพาะทางหูเท่านั้น สติสามารถจะเกิดขึ้นระลึกรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริงได้ ทำไมถึงสงสัยในขณะที่กำลังเห็นว่า จะเจริญสติได้อย่างไร ซึ่งหมายความว่าท่านผู้นั้นไม่ได้เจริญสติปัฏฐานเลย ถ้าท่านเป็นผู้ที่สนใจในธรรม และท่านทราบว่าสติมีลักษณะอย่างไร สติระลึกรู้อะไร ท่านก็สามารถที่จะเจริญสติปัฏฐานได้

ขอเชิญรับฟัง

ขับรถยนต์จึงเจริญสติไม่ได้หรือ