เรียนถามค่ะ
การเรี่ยไรเงิน และ การให้เงิน เพื่อการสร้างวัด เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ในกรณีนี้ คือ กรณีที่ภิกษุท่านขอเรี่ยไรเงินและรับเงินด้วยตนเอง เพื่อนำมาสร้างวัด สร้างกุฏิ สร้างห้องน้ำ เป็นต้น อยากทราบว่า ถ้าคฤหัสถ์ เรี่ยไรเงินกันเอง และจ้างคนมาสร้างวัด โดยที่ภิกษุไม่ได้แตะต้องเงินทองเลย ทำเช่นนี้ จะได้ไหมคะ ดิฉันเข้าใจเรื่องการไม่ให้เงินภิกษุ ไม่ใส่ซองเงิน เมื่อใส่บาตร แต่ยังนึกไม่ออกว่า ถ้าไม่มีวัดแล้ว พระภิกษุจะ อยู่ที่ไหน ในครั้งพุทธกาล พระภิกษุท่านอาศัยอยู่กันที่ไหน ทั้งตอนที่พระพุทธเจ้ายังมีพระชนม์ชีพ และเมื่อปริพนิพพานไปแล้ว ขอความกรุณาอธิบายให้เกิดความเข้าใจด้วยค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เข้าใจผิด
๖. พระต้องสร้างวัด ซ่อมแซมสิ่งต่างๆ ในวัด พระจึงจำเป็นต้องรับเงินทอง ทำกฐิน ผ้าป่า
เข้าใจถูก
๖. การสร้างวัดพระไม่ใช่ผู้เรี่ยไรเงิน พระไม่ใช่ผู้รับเงิน แต่ คฤหัสถ์เป็นคนจัดการเรื่องเงิน
คฤหัสถ์ผู้ฉลาดและเคารพระธรรม เคารพพระพุทธเจ้าและเคารพพระสงฆ์ย่อมปฏิบัติตามพระวินัย คือ ไม่ถวายเงินทองกับพระภิกษุและเคารพพระสงฆ์ ไม่ถวายของที่เป็นอกัปปิยะ ของที่ไม่สมควร มีเงิน เป็นต้นกับพระภิกษุเพราะทำให้ท่านต้องอาบัติ คฤหัสถ์ผู้ฉลาดเคารพในพระรัตนตรัย จึงทำวิธีการที่ถูกต้อง ดั่งเช่น สมัยพุทธกาล นางวิสาขา ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี พระเจ้าพิมพิสาร ไม่ได้เอาเงินไปถวายพระพุทธเจ้า ไม่ได้เอาเงินไปถวายท่านพระสารีบุตร เพราะท่านเหล่านั้นเคารพพระพุทธเจ้า เคารพพระธรรม เคารพระสงฆ์ แต่ สร้างวัดถวายเองโดย ไม่ให้พระยุ่งเกี่ยวกับเงินและทอง เวลาที่จะสร้างอย่างอื่น เช่น โรงครัว อุบาสก อุบาสิกา ผู้เข้าใจพระธรรม ก็กล่าวบอกกับพระภิกษุ และสร้างถวาย โดยไม่ใช่เอาเงินไปให้ท่าน นี่คือ วิธีการที่ถูกต้อง เป็นการรักษาพระวินัย และ ดำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา
ข้อความในพระไตรปิฎก แสดงความจริงว่า การสร้างวัด เป็นต้น ไม่ใช่การให้เงินพระโดยตรง ไม่มีการที่พระทำกฐิน ผ้าป่า เงินทอง แต่ คฤหัสถ์เป็นคนจัดการเรื่อเงินสร้างวัดให้
ท่านพระอุเทน “พราหมณ์ พระเจ้าอังคะโปรดพระราชทานอะไรเป็นเบี้ยเลี้ยงประจำแก่ท่านทุกวัน”
โฆฏมุขพราหมณ์ “ท่านอุเทน พระเจ้าอังคะโปรดพระราชทานทรัพย์ ๕๐๐ กหาปณะเป็นเบี้ยเลี้ยงประจำแก่ข้าพเจ้าทุกวัน”
ท่านพระอุเทน “พราหมณ์ การรับทองและเงินไม่สมควรแก่อาตมภาพทั้งหลาย”
โฆฏมุขพราหมณ์ “ท่านอุเทน ถ้าทองและเงินนั้นไม่สมควร ข้าพเจ้าจะให้สร้างวิหารถวายท่านอุเทน”
ท่านพระอุเทน กล่าวว่า “พราหมณ์ ถ้าท่านปรารถนาจะให้สร้างวิหารถวายอาตมภาพ ก็ขอให้สร้างโรงฉันถวายแก่สงฆ์ในเมืองปาตลีบุตรเถิด”
ข้อความบางตอนใน โฆฏมุขสูตร มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๓
ขออนุโมทนา
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
วัดคือที่อยู่ของพระภิกษุสามเณร ซึ่งเมื่ออยู่วัดแล้วทำอย่างคฤหัสถ์ไม่ได้โดยประการทั้งปวง เพราะฉะนั้น วัด ก็ต้องเป็นที่อยู่สำหรับผู้ที่มีเพศที่ต่างจากคฤหัสถ์ และตลอดทั้งชีวิตอุทิศเพื่อการศึกษาพระธรรมซึ่งลึกซึ้งอย่างยิ่ง จึงสละอาคารบ้านเรือนที่จะใช้ชีวิตตลอดชีวิตเพื่อให้เข้าใจธรรมที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
แม้ในช่วงแรกๆ ในสมัยพุทธกาล ยังไม่มีวัด แต่ลองคิดถึงสภาพจิตใจของผู้สละอาคารบ้านเรือน มุ่งสู่เพศที่สูงยิ่ง จิตใจไม่ได้คำนึงถึงเลยว่าจะเป็นอยู่ลำบากอย่างไร แต่ทั้งหมดเพื่อศึกษาพระธรรมอบรมปัญญาขัดเกลากิเลส สมกับที่สละอาคารบ้านเรือนของคฤัสถ์แล้ว ท่านอยู่ได้ ภายหลังก็มีคฤัสถ์ผู้ถวายที่อยู่แก่พระภิกษุสงฆ์ ก็เพื่อเป็นที่อยู่ของพระภิกษุทั้งหลาย ป้องกันความหนาว ความร้อน สัตวร้ายต่างๆ เป็นต้น เพื่ออนุเคราะห์ให้ชีวิตของท่านเป็นไปได้ เพื่อจะได้อบรมปัญญาขัดเกลากิเลสของตนเอง เท่านั้น
ถ้าจะว่าไปแล้ว ยุคนี้สมัยนี้ วัดมีเพียงพอต่อการที่จะเป็นที่อยู่ของพระภิกษุสามเณร วัดร้างก็มีอยู่มาก สิ่งที่ควรฟื้นฟู ไม่ใช่อย่างอื่น แต่ควรจะเป็นเรื่องความเข้าใจพระธรรมวินัย ด้วยการตั้งใจศึกษาด้วยความเคารพละเอียดรอบคอบ ซึ่งจะเกื้อกูลได้ดีอย่างยิ่ง ไม่กระทำในสิ่งที่ผิดทั้งผู้ที่เป็นบรรพชิตและคฤหัสถ์ ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร
ขอเชิญศึกษาพระธรรม...
รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์
พระไตรปิฎก
ฟังธรรม
วีดีโอ
ซีดี
หนังสือ
กระดานสนทนา
กราบอนุโมทนาค่ะ