[เล่มที่ 71] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 116
เถราปทาน
สุภูติวรรคที่ ๓
โขมทายกเถราปทานที่ ๑๐ (๓๐)
ว่าด้วยผลแห่งกาลถวายผ้าโขมะ
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 71]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 116
โขมทายกเถราปทานที่ ๑๐ (๓๐)
ว่าด้วยผลแห่งกาลถวายผ้าโขมะ
[๓๒] เวลานั้น เราเป็นพ่อค้าอยู่ในนครพันธุมดี ด้วยการค้าขายนั้น เราได้เลี้ยงดูภริยา และก่อสร้างกุศลสมบัติ เราต้องการกุศล ได้ถวายผ้าโขมะผืนหนึ่งแด่พระศาสดาพระนามว่า วิปัสสี ผู้ทรงแสวงหาคุณใหญ่หลวง เสด็จดำเนินอยู่ในถนน.
ในกัปที่ ๙๑ แต่กัปนี้ เวลานั้น เราได้ถวายผ้าโขมะใด ด้วยกรรมนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลของการถวายผ้าโขมะ ในกัปที่ ๒๗ แต่กัปนี้ เราเป็นพระเจ้าจักรพรรดิพระนาม ว่า สินธวสันทนะ สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ เป็นใหญ่ในทวีปทั้ง ๔. คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และ อภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระโขมทายกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการ ฉะนี้แล.
จบโขมทายกเถราปทาน
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 117
๓๐. อรรถกถาโขมทายกเถราปทาน
อปทานของท่านพระโขมทยกเถระ มีคำเริ่มต้นว่า นคเร พนฺธุมติยา ดังนี้.
พระเถระแม้นี้ ได้บำเพ็ญบุญญาธิการไว้ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ สั่งสมบุญทั้งหลายอันเป็นอุปนิสยแห่งพระนิพพานในภพนั้นๆ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า วิปัสสี บังเกิดในเรือนมีตระกูลแห่งหนึ่ง เจริญวัยแล้ว เลื่อมใสยิ่งในพระศาสนา นับถือพระรัตนตรัยว่าเป็น ของของเรา ฟังธรรมในสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า วิปัสสี มีใจ เลื่อมใส ได้กระทำการบูชาด้วยผ้าไหม. ท่านได้กระทำผ้าไหมนั้นนั่นแล ให้เป็นมูลค่า ทำบุญตลอดชีวิต จากนั้นก็บังเกิดในเทวโลก. เสวยทิพยสุขไปมาในเทวดา ๖ ชั้น จุติจากอัตภาพนั้นแล้ว เสวยมนุษยสมบัติ มีอย่างต่างๆ มีจักรพรรดิเป็นต้น ในมนุษยโลก เมื่อบุญสมภารถึงความแก่รอบแล้ว บังเกิดในเรือนมีตระกูล ในพุทธุปบาทกาลนี้ เจริญวัยแล้วฟังธรรมในสำนักของพระศาสดา ได้ศรัทธาแล้วบรรพชา เจริญวิปัสสนา ไม่นานนักก็บรรลุพระอรหัต. ท่านปรากฏโดยนามแห่งบุญที่ตนได้ทำไว้ว่า โขมทายกเถระ.
ท่านระลึกถึงบุพกรรมของตน เกิดโสมนัส เมื่อจะแสดงปุพพจริตาปทาน จึงกล่าวคำมีอาทิว่า นคเร พนฺธมติยา ดังนี้. ในคำนั้น ญาติ ท่านเรียกว่า พันธุ พวกพ้องอยู่สืบต่อกัน มาในนครใด นครนั้นท่านเรียก
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 118
ว่า พันธุมดี. คำว่า โรเปมิ พีชสมฺปทํ ความว่า เราปลูก คือเริ่มตั้งพืชสมบัติ คือบุญ มีทานและศีลเป็นต้น.
จบอรรถกถาโขมททายกเถราปทาน
จบอรรถกถาสุภูติวรรคที่ ๓
จบอรรถกถาจตุภาณวาร
รวมอปทานที่มีในวรรคนี้ คือ
๑. สุภูติเถราปทาน ๒. อุปวาณเถราปทาน ๓. ตีณิสรณาคมนิยเถราปทาน ๔. ปัญจสีลสมาทานิยเถราปทาน ๕. อันนสังสาวกเถราปทาน ๖. ธูปทายกเถราปทาน ๗. ปุลินปูชกเถราปทาน ๘. อุตติ- เถราปทาน ๙. เอกัญชลิกเถราปทาน ๑๐. โขมทายกเถราปทาน.
คาถารวมทั้งหมดที่ท่านกล่าวไว้มี ๑๘๕ คาถา.
จบสุภูติวรรคที่ ๓
จบภาณวารที่ ๔