ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ไม่มีอะไรเลยนอกจากฟังแล้วคิด ถ้าไม่คิดก็มีแต่คำถาม
สำคัญที่ความเข้าใจตัวจริงๆ ของธรรมะ เพราะเราขวนขวาย เราแสวงหา แต่ไม่ใช่เข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏ เพราะฉะนั้นฟังธรรมะเพื่อรอบรู้ เพื่อเข้าใจ อย่าไปคิดว่าเราจะต้องเข้าใจคำนี้ แต่ความจริงคือเข้าใจตัวธรรมะที่มีจริงๆ เดี๋ยวนี้ ฟังเพื่อเข้าใจสิ่งที่มีว่าลึกซึ้ง มิเช่นนั้นก็ได้แต่จำเรื่อง พูดชื่อและคิดว่าเราเข้าใจ แต่เราเข้าใจสิ่งนั้นตามความเป็นจริงหรือเปล่า? เราเข้าใจตัวจริงแต่ละหนึ่งไหมว่า ไม่ว่าจะพูดโดยนัยอะไร ก็คืออันนั้นแหละ มันเปลี่ยนไม่ได้!!
เกิดแล้วควรจะรู้ไหม? หรือควรจะรู้สิ่งอื่น?
เริ่มต้นรู้สิ่งที่มี เราถึงจะประจักษ์ความละเอียดได้ ไม่อย่างนั้น ... มันเป็นเพียงชื่อ!
จิตเกิดที่ไหน? เห็นที่ไหน? แข็งที่ไหน? ใครรู้บ้างว่ามันอยู่ตรงนี้
ถ้าเราเข้าใจจริงๆ เราจะเข้าใจทั้งหมด แต่ถ้าเราไปจำเป็นเรื่อง เราก็จะงงว่ามันเป็นเรื่องนี้หรือเปล่า มันอยู่ในช่องนี้ช่องนั้นหรือเปล่า เพราะฉะนั้นการศึกษาทั้งหมดถ้าเราเพียงจำคำ ชาติหน้าเราก็ลืม ชาตินี้ก็ลืมเพราะมุ่งไปที่คำ แต่ว่าตัวธรรมะจริงๆ มันเป็นอะไร? เป็นโลกหรือเปล่า เป็นอายตนะหรือเปล่า เป็นขันธ์หรือเปล่า เป็นธาตุหรือเปล่า ประเภทไหน ต้องเข้าใจตัวธรรมะ ไม่ใช่ไปเข้าใจชื่อ ต้องละเอียด ต้องเข้าใจให้ลึกถึงตัวธรรมะจริงๆ
เราลืมไปตลอดเวลาว่า ธรรมะละเอียด ประณีต ลึกซึ้ง ... อกุศลประณีตไหม? ถ้าเราไม่คิดเรื่อยๆ ให้หมดจดเราก็จะลืม ... จำแต่ว่าธรรมะละเอียด ประณีต ลึกซึ้ง แต่อกุศลประณีตไหม? ไม่ประณีต เพราะฉะนั้นเราต้องรู้ว่า ธรรมะอะไรละเอียด ประณีต ลึกซึ้ง ... ไม่ใช่ธรรมะทั้งหมด
ความเข้าใจของเราถ้ายังไม่มั่นคง ... เราก็หลงลืม แต่ไม่ได้หมายความว่าเราไม่รู้ไม่เข้าใจ แต่ลืมความละเอียด เราอาจจะคิดเผิน ... ธรรมะละเอียดลึกซึ้ง ประณีต ... ถ้าเราคิดอีกที ... ธรรมะที่ไม่ละเอียดก็มีใช่ไหม? ที่ละเอียดก็มีใช่ไหม? ขันธ์จึงต่างกันเป็นหยาบ ละเอียด ... เลว ประณีต ขึ้นกับว่ากล่าวในนัยไหน!! เพราะธรรมะก็มีหลากหลายนัยที่จะให้เข้าใจ
ฟังแล้วต้องมีความเข้าใจละเอียดขึ้น ก่อนอื่นต้องรู้ว่าคืออะไรก่อน
กุศลที่ไม่ได้ประกอบด้วยปัญญาประณีตไหม? เมื่อเทียบกับกุศลที่ประกอบด้วยปัญญา แล้วก็ยังเทียบเป็นขั้นๆ ด้วยว่าเป็นปัญญาระดับไหน!! เพราะฉะนั้นฟังธรรมะเราไม่ได้เข้าใจละเอียดลึกซึ้งไปหมด ต้องอาศัยการฟังแล้วค่อยๆ คิด ค่อยๆ ไตร่ตรอง ค่อยๆ เข้าใจ แต่ประโยชน์จริงๆ ไม่ใช่เราไปรู้อย่างนั้นโดยชื่อ แต่เข้าใจตัวธรรมะเดี๋ยวนี้!! เพราะว่ากว่าเราจะละ ... เพราะมันช่างมากมายเหลือเกิน แต่กำลังมีอยู่นี่ไม่รู้ เพราะฉะนั้นก็ต้องเริ่มต้นรู้สิ่งที่มี ถึงจะประจักษ์ความละเอียดได้ ไม่งั้นมันเป็นเพียงชื่อ ชาตินี้เป็นชาติที่สะสมบารมี ถ้าไม่มีความละเอียด ไม่มีความลึกซึ้ง จะละไม่ได้!! แต่การละต้องละตั้งแต่ขั้นฟัง ละความไม่เข้าใจ ละความไม่รู้
ฟังเพื่อเข้าใจสิ่งที่ได้ฟังว่า มันมีจริงๆ และความจริงแค่ไหน ... ตรงหรือยังเพื่อจะได้รู้ว่า เรายังไม่รู้!!
📸 ดูโพสต์นี้บน Facebook www.facebook.com/share/v/X8ZpsFn5zZNqQoJN/?mibextid=QwDbR1
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ
แนะนำหนังสือ ...
เมื่อสภาพธรรมปรากฏที่ญาจาง เวียดนาม
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลจิตครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลจิตของคุณnattawanครับ
คำว่ามั่นคงหมายถึงอย่างไรครับ
เรียนความเห็นที่ 4 ค่ะ
ความเข้าใจมั่นคงว่า ทุกอย่างที่มีจริง เป็นธรรมะ เกิดเพราะเหตุปัจจัยแล้วก็ดับไป ไม่กลับมาอีกเลยในสังสารวัฏฏ์ เป็นอนัตตา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด บังคับบัญชาไม่ได้ค่ะ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ