ขอเรียนถามเพื่อความเข้าใจยิ่งขึ้นว่า "เมื่อไม่มีเจตนา ก็ไม่บาปนั้น" ถ้าเราไม่ได้ตั้งใจฆ่ามด แต่โดยความพลั้งเผลอ ทำให้มดตาย ถือว่า เราไม่บาป แต่กรรมได้ทำไปแล้ว แม้ไม่เจตนา ย่อมยังให้ได้รับอกุศลวิบาก ใช่หรือไม่คะ
แม้มดจะเป็นกรรมเบาๆ ถ้าเป็นสัตว์มีคุณ แม้ไม่เจตนา แต่อกุศลวิบาก ก็คงไม่เบา และจะมาถึงเมื่อไรก็ไม่ทราบ อาจเป็นชาติต่อๆ ไปก็ได้ ถูกต้องหรือไม่คะ
ขอความกรุณาอธิบายให้เข้าใจยิ่งขึ้นด้วยค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
เมื่อพูดถึงกรรมแต่ละประเภทที่สำเร็จเป็นกรรม วิบากที่เกิดจากกรรมนั้นๆ ย่อมมีได้แต่เมื่อไม่สำเร็จเป็นกรรม หรือไม่มีเจตนา ไม่เป็นกรรม วิบากที่เกิดเพราะกรรมนั้นย่อมไม่มี เพราะไม่เป็นกรรม วิบากจึงไม่มี ครับ
ส่วนความหมายคำว่าบาปนั้นส่วนใหญ่หมายถึง อกุศลกรรม
อกุศลวิบากเป็นผลของอกุศลกรรม
เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ครับ
บาปไม่บาปอยู่ที่เจตนาเป็นสำคัญ
เจตนาคือตัวกรรม เมื่อไม่มีเจตนาฆ่ามด กรรมก็ไม่ครบองค์ เมื่อไม่ครบองค์ ก็ไม่เป็นกรรมไม่มีอกุศลวิบาก ไม่ต้องรับกรรม เรียกว่าไม่บาป ถ้ามีเจตนาเรียกว่าบาป แต่แน่ใจจริงๆ หรือที่ไม่มีเจตนา เพราะโลภะ โทสะ เขาแนบเนียนมาก แม้นสัตว์มีคุณถ้าไม่มีเจตนาก็ไม่มีกรรม จึงไม่ต้องไปคำนึงถึงว่าจะได้รับกรรมชาตินี้หรือชาติหน้า แต่เราเคยทำกุศลกรรมและอกุศลกรรมไว้มากเพราะได้เกิดมานานแล้ว จึงต้องยอมรับว่าอะไรเกิดก็ต้องเกิด ตามมีตามได้ อยู่ในศีลรักษาศีล เพื่อที่จะไม่ประกอบอกุศลกรรม (บาป) ให้มากขึ้น ครับ
การให้ผลของกรรมดีหรือไม่ดี เช่นการให้ทาน ชวนะดวงที่
1. ให้ผลชาตินี้ ชวนะดวงที่
2. ให้ผลนับชาติไม่ถ้วน ชวนะดวงที่ 7 ให้ผลชาติหน้า ในสังสารวัฏฏ์เราก็ทำทั้งกุศล กรรมและอกุศลกรรมมากมายนับไม่ได้ เราไม่ควรประมาทในการเจริญกุศลทุกประการค่ะ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลกรรมของทุกท่านค่ะ
เจตนา นั้นสำคัญจริงๆ แม้เพียงแว๊บเดียวขณะเดียวของจิตที่เจตนาเป็นอกุศล ซึ่งอาจไม่ทันรู้ตัวเลย อาจอยู่ในชวนะระหว่างดวงที่ 2-6 ก็ส่งผลได้ เมื่อไรก็ไม่รู้ ดังที่พระพุทธองค์ทรงตรัสถึงสาเหตุที่เสวยสุกรมัทวะของนายจุนทะแล้วทรงอาพาธจนดับขันธ์ปรินิพพาน เป็นเพราะในพระชาติที่เป็นแพทย์ ทรงให้ยารักษาผู้ป่วยผิด ทำให้ผู้ป่วยถึงแก่ความตาย จึงเป็นเหตุปัจจัยในพระชาติสุดท้าย
หากดิฉันยังเข้าใจผิดประการใด ขอความกรุณาแก้ไขความเข้าใจให้ด้วยค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ
ขออนุโมทนาครับ