ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สนทนาธรรมที่ประเทศอินเดียณ พระคันธกุฎี พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี ตุลาคม ๒๕๔๒
คุณบุตรสาวงษ์ ผมจะขอถามอีกปัญหาหนึ่ง คือ ในพระสูตร พระผู้มีพระภาคฯ ทรงแสดงเรื่อง จักขุปสาท กระทบ-รูปารมณ์ จักขุวิญญาณ ก็เกิดขึ้น ธรรม ๓ อย่าง นี้ เมื่อประชุมกัน ก็เป็น "ผัสสะ"
ท่านอาจารย์ "เป็นผัสสะ" หรือ "แสดงอาการปรากฏของผัสสะ" ว่า ขณะนั้น มีผัสสะ
คุณบุตรสาวงษ์ ตามที่เข้าใจ จากการศึกษาพระอภิธรรมเข้าใจว่า อาการปรากฏของผัสสะ คือ การประชุมกัน ของ ธรรม ๓ อย่าง นี้
ท่านอาจารย์ แต่ ไม่ได้หมายความว่า ธรรม ๓ อย่าง "เป็นผัสสะ"
คุณบุตรสาวงษ์ แต่ในพระสูตร ก็กล่าวว่า ธรรม ๓ อย่าง นี้ คือ ผัสสะ
ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้น เวลาที่ศึกษาพระธรรม ต้องเข้าใจความหมาย คือ อรรถ ไม่ใช่ถือตามตัวหนังสือ ธรรม ๓ อย่างนี้ จะ "เป็นผัสสะ" ได้อย่างไร แต่ตามความเป็นจริง เป็นเพราะว่า มี ธรรม ๓ อย่าง นี้ จึงมี อาการ ปรากฏ ของ ผัสสะ
คุณบุตร สาวงษ์ ใช่ครับ อย่างนั้นในพระสูตร กล่าวว่า ธรรม ๓ อย่างนี้ "เป็นผัสสะ" ก็ไม่ถูกต้อง ตามสภาพธรรม ที่ต่างกัน เพราะว่า จักขุ ก็ไม่ใช่ ผัสสะรูปารมณ์ ก็ไม่ใช่ ผัสสะวิญญาณ ก็ไม่ใช่ ผัสสะแต่เมื่อ ธรรม ๓ อย่าง ประชุมกันแล้ว ก็เป็นอาการปรากฏ ของ ผัสสะ
ท่านอาจารย์ ตัวอย่างใน "วิสุทธิมรรค" ก็มี ใช่ไหมคะ ที่กล่าวถึงเรื่องนี้ซึ่งใน วิสุทธิมรรค ก็ต้องนำข้อความ มาจากพระไตรปิฎกนั่นเอง ท่านผู้ฟัง ถ้าอ่านโดยพยัญชนะ หรือ ศึกษาตามพยัญชนะคือ จะมองเห็นเป็นภาพ หรือ เห็นเป็นก่อน หรือ หลัง ฯ เหมือนกับว่ามีการประชุมกันของ รูปารมณ์ จักขุปสาทรูป และจักขุวิญญาณจึง "เป็นผัสสะ" หรือ "เป็นปัจจัยให้ผัสสะเกิดขึ้น"
คุณบุตร สาวงษ์ เหมือนกับว่า จักขุวิญญาณ เกิดก่อน ผัสสะ เกิดทีหลังแต่ ความจริงแล้ว ผัสสะ ก็เกิดพร้อมกับ จักขุวิญญาณ ใช่ไหมครับ เพราะฉะนั้น ก็เป็นการแสดง เหตุ ผลแสดงสภาพธรรม และ การประชุมกันของสภาพธรรม เมื่อมี อารมณ์ปรากฏ คือ ขณะที่มี รูป มากระทบกับ ปสาทรูปขณะนั้น จึงเป็นปัจจัยให้ ผัสสะ เกิดขึ้นพร้อมกับ จักขุวิญญาณ เพราะฉะนั้น การกระทบกัน หรือว่า การที่มีสภาพธรรมเหล่านี้ ประชุมกันเป็น "อาการปรากฏของผัสสะ"
ท่านอาจารย์ อีกอย่างหนึ่งนะคะ ที่ทรงแสดงอย่างนี้ เป็นเพราะว่า ผัสสะ เป็นสภาพธรรม ซึ่งยากที่จะรู้ได้ เช่น กำลัง เห็น ขณะนี้ มีใคร รู้ ลักษณะของ ผัสสเจตสิก เพราะว่า ผัสสเจตสิก เป็น นามธรรม ที่กระทบ อารมณ์ผัสสเจตสิก ไม่ใช่ จักขุปสาทรูป ที่กระทบกับ รูปารมณ์จักขุปสาทรูป เป็น รูปธรรมรูปารมณ์ เป็น รูปธรรม แต่ ต้องเป็นผัสสเจตสิก ที่กระทบ รูปารมณ์ โดยอาศัย จักขุปสาทรูป เพราะฉะนั้น ขณะที่ "สภาพธรรมปรากฏ"เช่น ขณะนี้ มี "การเห็น" และ มี "สิ่งที่ปรากฏทางตา" ผัสสเจตสิก ไม่ได้ปรากฏแต่ หมายความว่า สภาพธรรมเหล่านี้ จะปรากฏได้ ก็ต้องมี ผัสสเจตสิกเมื่อ สภาพธรรมต่างๆ เหล่านี้ ปรากฏได้ก็แสดงว่า ขณะนี้ ต้องมี ผัสสเจตสิก เกิดขึ้นด้วย
ขออนุโมทนา
ขออุทิศกุศล แด่ คุณพ่อ คุณแม่ และ สรรพสัตว์
อนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ