ในท่ามกลางความเห็นผิดรอบตัว ซึ่งมีอยู่มากมายในปัจจุบัน การที่จะได้พบพระธรรมคำจริง ได้ฟัง ได้เข้าใจ ก็เห็นจะเป็นเรื่องที่ยากแสนยากแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่า การประคองตนเพื่อให้สามารถตั้งมั่นอยู่ในหนทางที่ถูกต้อง ตรงตามที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้นั้น ดูจะเป็นสิ่งที่ยากยิ่งกว่า เหตุใดจึงเป็นอย่างนั้นได้คะ และการจะประคองตนเพื่อให้ตั้งมั่นอยู่บนหนทางที่ถูกนี้ได้ ควรเป็นเช่นใด
ขอคำชี้แนะด้วยนะคะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เพราะสะสมความไม่รู้และอกุศลธรรมทั้งหลายมามากจึงเป็นเช่นนั้น เป็นธรรมดาจริงๆ เป็นธรรมที่มีจริงที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ไม่ใช่ใครเลย แต่เมื่อเห็นประโยชน์ของพระธรรม ฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมต่อไป ด้วยความอดทน จริงใจ ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ความเข้าใจถูกเห็นถูกคือปัญญานี้แหละจะประคับประคองให้มั่นคงในหนทางที่ถูกต้องนี้ ไม่ไปทางอื่น ไม่หวั่นไหวไปกับสิ่งที่ผิดทั้งหลายทั้งปวง เพราะเหตุว่าปัญญาจะไม่นำพาไปสู่สิ่งที่ผิดโดยประการทั้งปวง ดังนั้น จึงไม่มีทางอื่นเลย นอกจากฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมต่อไป ด้วยความเคารพ ละเอียดรอบคอบ ให้เวลากับสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตนี้ ครับ
... ยินดีในกุศลของคุณtalaykwangและทุกๆ ท่านด้วยครับ ...
กราบขอบพระคุณและยินดียิ่งในกุศล อ.คำปั่น ค่ะ
ขอถวายความนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงชี้โทษภัยของการเกิด ด้วยพระมหากรุณายิ่งต่อสัตว์โลกในหลายพระสูตร และทรงแสดงทางที่จะออกจากภัย ที่สุดคือการประพฤติธรรมตามอริยมรรคมีองค์ ๘ เพราะเหตุว่าปุถุชนยังไม่พ้นภัยของอบายภูมิด้วยอกุศลทั้งหลาย และภัยที่ยิ่งกว่านั้นคือ การเกิดแก่เจ็บตาย ทุกภพชาติ เป็นสิ่งที่แน่นอน ซึ่งมีต้นเหตุมาจากไม่รู้จักสภาพธรรมที่เกิดดับบังคับบัญชาไม่ได้ ซึ่งถ้าไม่ศึกษาพระธรรมจนเข้าถึงธรรมที่ทรงแสดงจะไม่เห็นภัยของสภาพที่เป็นทุกขอริยสัจได้เลย จึงต้องไม่ประมาทว่าแม้ได้ฟังพระธรรม ที่ทำให้เริ่มเข้าใจความจริงที่ไม่เคยรู้มาก่อน แต่ก็ไม่เพียงพอเลย ที่จะชำระล้างอกุศลทั้งหลายที่เป็นต้นเหตุของภัย พระไตรปิฏกแสดงให้เห็นว่าชีวิตของผู้ที่ท่านรู้แจ้งความจริงถึงที่สุดและพ้นจากภัยได้ ท่านเหล่านั้นได้เจริญกุศลในพระศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหลายพระองค์ ได้พบ ได้เฝ้า ได้ฟังคำจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่เพียงพระองค์เดียว หนทางของการสะสมความเห็นถูกตามความจริงที่พระพุทธองค์ทรงแสดงต้องอาศัยคุณความดีคือบารมีที่ยาวนาน จึงจะเป็นเครื่องประคองตน ให้ถึงฝั่งที่แสนไกลได้ และหลายท่านแม้มีเหตุที่สะสมความเข้าใจมามากจากชาติก่อนๆ แต่เมื่อถึงชาติที่ประมาท คบพาล ก็ตกลงต่ำที่สุดในภพนั้นคือถูกลงโทษจากภัยของบ้านเมืองถึงกับถูกประหารชีวิต จนถึงภัยในภพหน้าคืออบายภูมิ ก็มีแสดงไว้แล้ว
ซึ่งท่านอาจารย์ก็ได้กล่าวเตือนใจให้รู้ว่ายังเป็นผู้ไม่รู้ และยังอยู่ปากเหวของอวิชชา จึงไม่ควรประมาทที่จะปล่อยมือจากเชือก คือ ไม่ขาดการฟังพระธรรมที่จะทำให้มีความเข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้น ละเอียดขึ้น และมั่นคงในการเจริญกุศลทุกประการที่จะข้ามฝั่งพ้นภัยได้จริงๆ
สิ่งที่ไม่ควรลืม คือ ปุถุชน สะสมความไม่รู้ ความเห็นผิด และอกุศลทั้งหลายมาแสนนาน จะเอาไปทิ้งที่ไหนได้ในเวลาเพียงไม่กี่ชาติที่ได้ฟังพระธรรม เพราะแท้จริงอย่างน้อยต้องเป็นแสนกัปป์หรือมากกว่า ที่ต้องชำระล้างด้วยความเข้าใจคือปัญญาและกุศลทั้งหลาย เหตุนี้ฟังพระธรรมเท่าไรก็ไม่พอ ถ้ายังไม่ถึงความเป็นพระอรหันต์ ขันติ วิริยะ สัจจะ และบารมีทั้งหลาย ขาดไม่ได้เลยในหนทางที่จะพ้นภัย
กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง
ขอบพระคุณและยินดีในกุศล อ.คำปั่นและคุณtalaykwangที่เห็นประโยชน์ในการศึกษาพระธรรมด้วยค่ะ
ศึกษาเพิ่มเติมที่
๕. ปัพพโตปมสูตร
ยินดีในกุศลจิตครับ