* ถ้าไม่ได้เข้าใจธรรมตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ก็จะไม่รู้เลยว่าสิ่งใดไม่เป็นสาระ และสิ่งใดที่เป็นสาระ แล้วก็จะยึดถือในสิ่งที่ไม่เป็นสาระว่าเป็นสาระ และเห็นผิดในสิ่งที่เป็นสาระว่าไม่เป็นสาระ
* สิ่งที่ไม่เป็นสาระ ก็คือสิ่งที่ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน ซึ่งก็คือสภาพธรรมที่อาศัยปัจจัยปรุงแต่งเกิดแล้วก็ดับไปในแต่ละขณะเดี๋ยวนี้เอง
* ชีวิตในแต่ละภพชาติ ก็มีเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สภาพที่กระทบทางกาย และคิดนึก ซึ่งก็เป็นเพียงสภาพธรรมแต่ละอย่างที่เกิดดับ จึงไม่เป็นสาระที่แท้จริงเลย
* สิ่งที่เป็นสาระอย่างแท้จริงต้องเป็นสภาพธรรมที่ไม่เกิดดับ เพราะไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง ก็คือพระนิพพาน
* ผู้ที่ไม่เข้าใจในความเกิดดับของสิ่งที่มีในขณะนี้ ก็จะหลงยึดถือว่าเป็นเรา เป็นของเรา ที่ยั่งยืน จึงยึดถือในสิ่งที่ไม่เป็นสาระว่าเป็นสาระ และเมื่อไม่รู้ความจริง ก็ไม่เข้าใจหนทางแห่งการรู้แจ้งพระนิพพาน จึงเห็นผิดในพระนิพพาน ซึ่งเป็นสาระ ว่าไม่เป็นสาระ
* ส่วนผู้ที่ได้ฟังพระธรรม ก็จะค่อยๆ เข้าใจความจริงเพิ่มขึ้นๆ จึงเริ่มรู้ว่าอะไรไม่เป็นสาระ อะไรคือสาระที่แท้จริงของชีวิตในสังสารวัฏฏ์ และก็จะอบรมเจริญปัญญา ซึ่งเป็นหนทางดำเนินไปสู่สิ่งที่เป็นสาระต่อไป แม้ว่าจะอีกแสนนานเท่าไหร่ก็ตาม
โดย อ.อรรณพ หอมจันทร์
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... คติธรรม
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณมากค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ