ตราบใดที่ยังมีศีรษะเป็นอวิชชาคือความไม่รู้ ก็ต้องอยู่ในสังสารวัฏฏ์ต่อไปจนกว่าจะตัดศีรษะด้วยปัญญาที่ดับความไม่รู้ได้เด็ดขาด จึงจะไม่มีชีวิตเป็นไปอีกเลย
จากการสนทนาพื้นฐานพระอภิธรรม ที่ มศพ. ๒๒ ต.ค. ๖๐
ความเป็นศีรษะของอวิชชาที่เป็นเหตุให้สังสารวัฏฏ์ดำเนินไปเป็นอย่างไร!!!
เดี๋ยวนี้มีชีวิตใช่ไหม ... เป็นไปใช่ไหม ... และจะต้องเป็นไปต่อไปอีกเรื่อยๆ ใช่ไหม ... เพราะยังมีเหตุคือการไม่รู้ความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏ
คนที่ยังมีศีรษะก็คือคนที่มีชีวิตและคนที่มีชีวิตก็มีชีวิตอยู่ต่อไปเรื่อยๆ การที่ชีวิตต้องดำเนินไปไม่หยุดยั้งก็เพราะความไม่รู้
มีศีรษะกันทุกคนเพราะชีวิตก็เป็นไปแต่ละขณะหยุดยั้งไม่ได้เลย เมื่อกี๊นี้หมดไปก็มีอีกต่อไปเรื่อยๆ ตายแล้วก็เกิดอีก
นี่คือพระมหากรุณาตรัสคำเพื่อให้ผู้คนได้ไตร่ตรองพิจารณาแล้วเข้าใจ ๔๕ พรรษาโดยประการทั้งปวง
แม้แต่ทุกคนมีศีรษะ ฟังเผินๆ เหมือนพูดอะไร ... ก็มีศีรษะกันทุกคน แต่ที่คนยังมีศีรษะอยู่ ยังไม่ตาย ยังต้องเป็นผู้มีศีรษะอยู่ต่อไปก็เพราะอวิชชาความไม่รู้ ถ้าไม่มีความเข้าใจจะทำให้ศีรษะตกไปได้ไหม ... ไม่มีทาง!!! อยากมีศีรษะไหม ... มีก็ไม่รู้จะวางไว้ไหนก็ต้องมี ... ทิ้งไม่ได้
กำลังมีศีรษะกันทุกคนแล้วศีรษะก็ทำให้ต้องเป็นไปในสังสารวัฏฏ์ เหมือนคนที่ยังไม่ตายก็ต้องมีชีวิตอยู่ เมื่อมีเหตุปัจจัยก็ทำให้มีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นจนกว่าจะหมดเหตุปัจจัย ถ้าหมดเหตุปัจจัยแล้วก็เกิดไม่ได้อย่างพระอรหันต์ทั้งหลายท่านไม่เกิดอีกเพราะหมดเหตุปัจจัยที่จะให้เกิดโดยตัดศีรษะคืออวิชชา เหมือนคนที่ตายแล้วไปไหนไม่ได้ เกิดอีกต่อไปก็ไม่ได้
การที่จะตัดศีรษะหรือดับอวิชชา ฟังธรรมเพื่อไม่ใช่เรา ความไม่ใช่เรานำไปสู่การดับอวิชชาได้อย่างไร!!! ฟังธรรมเพื่อเข้าใจ ไม่ใช่เพื่อเรา เพราะเข้าใจก็ไม่ใช่เรา ถ้าเข้าใจจริงๆ ก็ไม่มีเรา
กราบบูชาคุณท่านอ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์ด้วยความเคารพยิ่ง
คนที่ยังมีศีรษะก็คือคนที่มีชีวิตและคนที่มีชีวิตก็มีชีวิตอยู่ต่อไปเรื่อยๆ การที่ชีวิตต้องดำเนินไปไม่หยุดยั้งก็เพราะความไม่รู้
...อนุโมทนาค่ะ...
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ