ทำไมพระพากุลเถระผู้สะสมบารมีอสงไขยกับอีกแสนกัปจึงไม่ได้เป็นพระอัครสาวกเบื้องซ้ายหรือขวาครับ
แล้วถ้าท่านไม่ได้บรรลุตั้งแต่แสนกัปครับ ทำไมถึงสะสมถึงอสงไขยกับอีกแสนกัปครับ
ขอบคุณครับ อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
หากได้อ่านประวัติท่านพระพากุละ ผู้ที่มีอายุยืน ปราศจากโรค เพราะบุญที่ท่านทำมาเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์ คือ การถวายเภสัช ยา กับ พระพุทธเจ้า เป็นต้น แต่หากเราพูดถึงตำแหน่งผู้เลิศในแต่ละด้าน จะต้องได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้า แม้ว่าก่อนหน้านั้น เช่น สมัยอสงไขยแสนกัป สมัยพระพุทธเจ้าอโนมทัสสี จะทำบุญมา น้อมจิตที่ไม่มีโรค แต่เมิ่อปัจจัยที่บุญบารมีไม่พร้อม พระพุทธเจ้าก็ยังไม่ทรงพยากรณ์ว่าจะเป็นผู้เลิศในการมีอาพาธน้อย ต่อเมื่อสมัยพระพุทธเจ้าปทุมุตตระ แสนกัปที่แล้ว ท่านพระพากุละ ในอดีตชาตินั้น เกิดจิตคิดปรารถนาเป็นภิกษุผู้เลิศมีอาพาธน้อย จึงน้อมจิตตามบุญที่ทำ เหตุปัจจัยพร้อม พระพุทธเจ้าจึงทรงพยากรณ์ว่าจะได้เป็น อันแสดงถึงความแน่นอน หากแต่ว่าในสมัยอสงไขยแสนกัป ไม่ได้ปรารถนาจะเป็นผู้เลิศ อาพาธน้อย แต่ก็ทำกุศลด้วย ข้อความในพระไตรปิฎกแสดงให้เห็นว่า ก็ทำบุญเกี่ยวกับยามานานแล้วครับ ดั่งเช่น พระสาวกรูปอื่น ก็ไม่ใช่ทำบุญมาตอนเฉพาะเริ่มที่แสนกัป แต่ก่อนหน้านั้นก็ทำบุญมาก่อนแสนกัปแล้ว แต่ชาติที่ได้พยากรณ์คือ แสนกัป สมัยพระพุทธเจ้าปทุมุตตระ ครับ ขออนุโมทนา
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
แสดงว่า การบรรลุธรรม ไม่ได้อยู่กับเวลา ใช่ไหมครับ เพราะถ้าอ่านพระสูตร ส่วนใหญ่สะสมแสนกัปจะบรรลุ แต่ท่านสะสมเนิ่นนานมาถึงหนึ่งอสงไขยกับแสนกัปยังไม่บรรลุ รบกวนอาจารย์ยกสาเหตุและขยายความว่าทำบุญยังไงจะสะสมบารมีมาก และบรรลุไม่ช้าด้วยครับ อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุครับ ขอบคุณครับ
เรียนความเห็นที่ 5 ครับ
พระอริยสาวกทุกท่าน ต้องอบรมปัญญา และ กุศลยาวนาน ไม่ใช่เพียงแสนกัป แต่การจะได้รับพยากรณ์ ที่แน่นอนจะได้เป็นผู้เลิศ คือ แสนกัป ครับ
ขออนุโมทนาค่ะ