กรุณาอธิบายข้อความนี้ด้วยค่ะ "เพียงอาศัยระลึก เพราะทุกอย่างเกิดแล้ว ดับแล้ว เท่านั้น"
ขอบคุณและอนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เพียงอาศัยระลึก คือ สภาพธรรมที่กำลังเกิดขึ้นและดับไป เป็นปัจจัยให้สติปัฏฐานเกิดระลึกรู้ เพียงเกิดให้รู้ ให้อาศัยระลึกเท่านั้น และ ก็รู้ความจริงในขณะนั้น ในขณะที่สภาพธรรมนั้นเกิด ครับ
ขอเชิญอ่านคำบรรยาย ท่านอาจารย์สุจินต์ได้ที่นี่ ครับ
ทุกอย่างที่มีเพียงอาศัยระลึก
ผู้ถาม ชีวิตประจำวันก็มาจากการกระทำ จากวิบากที่ได้รับ และที่นี้เวลาสิ่งที่กระทบที่ว่าเป็นวิบาก แต่ก็ไม่สามารถรู้ว่าเป็นวิบาก แต่ทันทีมันเกิดเหตุใหม่แล้ว ก็หมายความว่าปัญญาก็ไม่เกิดอีกเหมือนกัน
สุ. เพราะฉะนั้นถ้ามีความเข้าใจที่ถูกต้อง ทุกอย่างที่มีเพียงอาศัยระลึก พอระลึกแล้วก็หมด และก็มีสภาพธรรมอื่นปรากฏจึงจะเห็นว่าสภาพธรรมนั้นไม่เที่ยง และก็มีลักษณะที่ต่างกัน แล้วก็ละเอียดมากด้วย ต้องเป็นผู้ที่ละเอียดด้วย
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สิ่งที่มีจริงๆ คือ สภาพธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไป ไม่ว่าพ้นไปจากสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไปทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และ ใจ นั้น เป็นที่ตั้งให้สติปัญญาเกิดขึ้นระลึกรู้ตามความเป็นจริงได้ว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา ได้ เป็นที่อาศัยระลึก เพราะมีจริงๆ ซึ่งจะต้องอาศัยเหตุที่สำคัญ คือ การฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ฟังในสิ่งที่มีจริงบ่อยๆ เนืองๆ จนมั่นคงจริงๆ เพราะระลึกลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง นั้น ไม่ใช่เพียงคำพูด แต่เป็นการที่ไม่ว่าจะสภาพธรรมที่เกิดปรากฏ ก็สามารถรู้ตามความเป็นจริง ไม่ผิด ไม่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เพราะฉะนั้น เพราะสะสมความไม่รู้มานานแสนนาน จึงต้องไม่ขาดการฟังพระธรรม ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย จริงๆ ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิต อ.คำปั่น อ.ผเดิม และ naturalplus40 ด้วยค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ