การสนทนาเรื่องปฏิบัติธรรม
อาทิตย์ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๐
ผู้ฟัง ท่านอาจารย์ครับ มันแยกไม่ออกระหว่างฉันทะและโลภะ
อ. ค่ะ ไม่ใช่ให้แยกด้วยความเป็นเรา แต่เข้าใจลักษณะที่เป็นธัมมะ
ผู้ฟัง คือต้องเข้าใจธรรมไปก่อน
อ. ตั้งต้นค่ะ สุตมยปัญญา จินตามยปัญญา ภาวนามยปัญญา ใครจะไปกลับ ไปสลับ ภาวนามยปัญญาก่อนแล้วก็มาสุตมยปัญญา จินตามยปัญญา เป็นไปไม่ได้เลยค่ะ
ผู้ฟัง จินตามยปัญญา ก็คือ เราทบทวนที่ได้ยินได้ฟังก็เป็น จินตามยปัญญา
อ. คิด ปัญญาสำเร็จจากการคิด การไตร่ตรอง ความเข้าใจขึ้น ไม่ใช่ฟังแล้วหมดเลย แล้วฟังใหม่ แล้วก็หมดไปอีกนะคะ
ผู้ฟัง เพราะฉะนั้น ก็คือเกิดสลับกันได้ระหว่าง ...
อ. ทุกอย่างเป็นธัมมะทั้งหมดค่ะ ที่เกิดขึ้นจะไม่พ้นไปจากจิต เจตสิก รูป บังคับบัญชาไม่ได้
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ฉันทะ เป็นเจตสิก เกิดกับกุศลจิตก็ได้ เกิดกับอกุศลจิตก็ได้ ส่วนโลภะก็เป็นเจตสิกเหมือนกัน แต่เกิดกับอกุศลจิต เป็นชาติอกุศลค่ะ เช่น บางคนมีฉันทะในการทำกุศลกับพระภิกษุ มีฉันทะในการช่วยเหลือคนอื่น ฯลฯ
ส่วน โลภะ ความติดข้อง บางคนทำกุศลแล้ว ก็หวังผลของกุศล ให้ทาน รักษาศีล ฯลฯ หวังไปเกิดในสุคติภูมิ ฯลฯ
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ