เปรตตนหนึ่งกล่าวว่า การไม่ให้แก่ใครๆ เป็นความพินาศ
โดย webdh  5 พ.ค. 2550
หัวข้อหมายเลข 3637

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เปตวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้าที่ 210

คำกล่าวของเปรตตนหนึ่ง

การสงวนทรัพย์คือ ไม่ให้แก่ใครๆ เป็นความพินาศ ของสัตว์ทั้งหลาย ความฉิบหายก็คือ การสงวน ทรัพย์ ได้ยินว่าเปรตทั้งหลายรู้ว่า การสงวน ทรัพย์คือการไม่ให้แก่ใครๆ เป็นความพินาศ เมื่อก่อนข้าพเจ้าสงวนทรัพย์ไว้ เมื่อทรัพย์มีอยู่ เป็นอันมาก ไม่ให้ทาน เมื่อไทยธรรมมีอยู่ ไม่ทำ ที่พึ่งแก่ตน ข้าพเจ้าได้รับผมแห่งกรรมของตน จึงเดือดร้อนในภายหลัง ฯลฯ



ความคิดเห็น 1    โดย อิสระ  วันที่ 5 พ.ค. 2550
ขออนุโมทนาครับ

ความคิดเห็น 2    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 5 พ.ค. 2550

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 217

ข้อความบางตอนจาก ...

ทุติยชนสูตร

ครั้นเมื่อเรือนถูกไฟไหม้ เจ้าของ ขนของสิ่งใดออกได้ ของสิ่งนั้นก็เป็น ประโยชน์แก่เจ้าของ ส่วนของที่ไม่ได้ขน ออกก็ไหม้อยู่ในนั้น. ฉันเดียวกัน ครั้นเมื่อโลกอันชรามรณะไหม้อยู่อย่างนี้แล้ว ชาวโลกพึงขน ออกด้วยการให้ทานเถิด สิ่งที่ให้เป็นทาน ไปแล้ว จัดว่าได้ขนออกอย่างดีแล้ว ความสำรวมทางกายทางวาจาทางใจ อันใดในโลกนี้ คือเมื่อยังเป็นอยู่บุคคลอยู่ได้ ทำบุญอันใดไว้ บุญอันนั้นย่อมเป็นไปเพื่อ ความสุขแก่เขาผู้ละ (โลกนี้) ไป.

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 260

ข้อความบางตอนจาก ...

มัจฉริสูตร
ว่าด้วยวิบากของคนตระหนี่

[๑๔๘] เทวดาทูลถามว่า คนเหล่าใดในโลกนี้ เป็นคนตระหนี่ เหนียวแน่น ดีแต่ว่าเขา ทำการกีดขวาง คนเหล่าอื่นผู้ให้อยู่. วิบากของคนพวกนั้น จะเป็นเช่นไร และสัมปรายภพของเขา จะเป็นเช่นไร. ข้าพระองค์มาเพื่อทูลถาม พระผู้มีพระภาคเจ้า ไฉนข้าพระองค์จึงจะ รู้ความข้อนั้น.

[๑๔๙] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า คนเหล่าใดในโลกนี้ เป็นคนตระหนี่ เหนียวแน่น ดีแต่ว่าเขาทำการกีดขวาง คนเหล่าอื่นผู้ให้อยู่. คนเหล่านั้นย่อมเข้า ถึงนรก กำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน หรือยมโลก ถ้าหากถึงความเป็นมนุษย์ ก็เกิดในสกุล คนยากจน ซึ่งจะหาท่อนผ้า อาหาร ความ ร่าเริงและความสนุกสนานได้โดยยาก. คนพาลเหล่านั้นต้องประสงค์สิ่งใดแต่ผู้อื่น เขาย่อมไม่ได้แม้สิ่งนั้น สมความปรารถนา นั่นเป็นผลในภพนี้ และภพหน้าก็ยังเป็น ทุคติอีกด้วย.

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้าที่ 174

อีกอย่างหนึ่ง ด้วยความตระหนี่ที่อยู่ เขาย่อมไหม้ในเรือนโลหะ. ด้วยความตระหนี่ตระกูล เขาย่อมเป็นผู้มีลาภน้อย. ด้วยความตระหนี่ลาภ เขาย่อมเกิดในคูถนรก. ด้วยความตระหนี่วรรณ เมื่อเกิดในภพ จะไม่มีวรรณ. ด้วยความตระหนี่ธรรม เขาย่อมเกิดในนรกขี้เถ้า.

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้าที่ 256

ข้อความบางตอนจาก ...

มัจฉริยสูตร

ว่าด้วยธรรมทำให้ภิกษุณีเหมือนตกนรกและขึ้นสวรรค์

[๑๑๕] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ เหมือนถูกนำมาไว้ในนรก ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ ภิกษุณีเป็นผู้ ตระหนี่ที่อยู่ ๑ ตระหนี่สกุล ๑ ตระหนี่ลาภ ๑ ตระหนี่วรรณะ ๑ ตระหนี่ ธรรม ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล เหมือนถูกนำมาไว้ในนรก.

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้าที่ 909

ข้อความบางตอนจาก ...

มัจฉริยสูตร

[๒๗๓] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มัจฉริยะ ๕ ประการเป็นไฉน คือ อาวาสมัจฉริยะ (ตระหนี่ที่อยู่) ๑ กุลมัจฉริยะ (ตระหนี่ตระกูล) ๑ ลาภมัจฉริยะ (ตระหนี่ลาภ) ๑ วรรณมัจฉริยะ (ตระหนี่วรรณะ) ๑ ธรรมมัจฉริยะ (ตระหนี่ลาภ) ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มัจฉริยะ ๕ ประการนี้แล ฯลฯ

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงเจริญสติปัฏฐาน ๔ นี้ เพื่อละมัจฉริยะ ๕ ประการนี้แล.

จบ มัจฉริยสูตรที่ ๗

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย


ความคิดเห็น 3    โดย wannee.s  วันที่ 6 พ.ค. 2550

คนใดให้ทานแก่ผู้มีธรรมอันได้แล้ว ผู้บรรลุธรรมด้วยความเพียรและความหมั่น คนนั้นล่วงเลยเวตรมณีนรก ของพระยายมไปได้ แล้วจะเข้าถึงทิพยสถาน


ความคิดเห็น 4    โดย chatchai.k  วันที่ 23 พ.ย. 2566

ยินดีในกุศลจิตครับ