เมื่อเพิ่งได้ยินชื่อของคนๆ หนึ่งแล้วจำไว้ ขณะนี้สัญญาทำหน้าที่จำชื่อไว้ มาภายหลังเห็นคนๆ นี้ ก็จำได้ว่าชื่อนั้น อยากทราบว่าตอนนี้ที่จำได้นึกชื่อได้ยังเป็นเพราะสัญญาเจตสิกที่เกิดใหม่นี้หรือไม่อย่างไรครับ
ขอบพระคุณครับ
ขณะที่จิตเกิดขึ้นรู้อารมณ์ มีเจตสิกเกิดประกอบกับจิตมากมาย และต่างทำกิจของเจตสิกนั้นๆ เช่น สัญญาเจตสิกเป็นสภาพที่จำในอารมณ์ วิตกเจตสิกเป็นสภาพที่ตรึกถึงอารมณ์ ดังนั้น ในการจะตรึกนึกถึงสิ่งที่เคยจำไว้ ก็เป็นหน้าที่ของวิตกเจตสิกที่เกิดขึ้นทำกิจการงานร่วมกับเจตสิกอื่นๆ สัญญาเจตสิกเดิมที่จำในอารมณ์และดับไปแล้วก็สืบต่อการจำนั้นไว้ในจิตขณะต่อๆ ไป เมื่อมีเหตุปัจจัยที่จะมีการคิดถึงสิ่งนั้น วิตกก็ตรึกถึงสิ่งที่เคยจำ และในขณะนั้นก็ต้องมีสัญญาเจตสิกที่เกิดขึ้นทำกิจจำอีก ดังนั้นถ้ามีการตรึกถึงสิ่งที่เคยจำในเรื่องหนึ่งเรื่องใดบ่อยๆ ก็ยิ่งมีความจำในเรื่องนั้นมั่นคงขึ้น สืบต่อสะสมการจำในเรื่องนั้นๆ ต่อๆ ไป
สิ่งที่น่าคิด คือ ในชีวิตประจำวันเราสะสมการจำ การตรึกในทางกุศล หรืออกุศลมากกว่ากัน ในขณะที่เป็นอกุศลในสิ่งใด ก็สะสมความจำอย่างอกุศลนั้นๆ ไป และมีปัจจัยที่จะตรึกถึงสิ่งนั้นๆ ด้วยอกุศลอย่างนั้นๆ และก็มีความจำใหม่ที่จำอย่างอกุศลต่อไปอีก แต่ถ้าเป็นในทางกุศลก็ตรงข้าม เช่น ในขณะที่กำลังฟังธรรมพิจารณาธรรม ก็เป็นกุศล ซึ่งก็ต้องมีสัญญาเกิดขึ้นทำกิจจำอย่างเป็นกุศล และสะสมไว้ในจิตขณะต่อๆ ไปด้วย
สาธุ
ขออนุโมทนาค่ะ ที่ทำให้สัญญาความจำมั่นคงยิ่งๆ ขึ้น จากการฟังพระธรรมทางรายการวิทยุ เพราะเพิ่งฟังรายการที่ท่านอาจารย์สุจินต์ ออกอากาศตอนเช้านี้เองค่ะ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ
ด้วยความเคารพ จาก ใหญ่ราชบุรี-ธิดารัตน์ เดื่อมขันมณี
กราบอนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ