เมื่อวันเสาร์ได้สนทนา พระสูตร เรืองมาร ท่านอาจารย์ได้กล่าวว่า ทุกครั้งที่ได้ฟังเข้าใจเพิ่มขึ้นจากสิ่งที่ได้ฟัง เพราะสิ่งที่ได้ฟังนั้นล้วนเป็นสิ่งที่มีจริง เป็นธรรม ควรเข้าใจสิ่งที่มีจริงขณะนี้ก่อน เมื่อมีความเข้าใจการศึกษาการฟังข้อความในพระไตรปิฎกก็สามารถเข้าใจได้ อย่างน้อยวันนี้สนทนาธรรมพระสูตรก็รู้จัก อุปธิ ไม่ใช่รู้จักแต่ชื่อทุกอย่างที่กำลังปรากฏเป็นธรรม เป็นสิ่งที่ควรรู้ยิ่ง แต่ก็รู้ได้ยาก จึงต้องฟังให้เข้าใจค่อยๆ สะสมความเห็นถูกเข้าใจถูกในสิ่งที่กำลังปรากฏ
ไม่ใช่ฟังธรรมเพื่อหวังผลหวังจะให้เกิดปัญญาเร็วๆ หรือฟังแล้วไม่พิจารณาถึงสิ่งที่ได้ฟังว่าเป็นจริงตามนั้นโดยไปคิดเอาเอง ซึ่งก็เป็นตัวตนที่พยายามจะไปรู้ จะไปทำ ซึ่งก็ไม่มีทางเข้าใจสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏแล้วหมดไป อยู่ตลอดเวลา แสดงว่าความเข้าใจยังไม่พอ ต้องฟังธรรมต่อไปอีก พระธรรมทั้งหมดก็เพื่อดับโลภ แต่จะดับโลภทีเดียวไม่ได้ ต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เห็นโทษของโลภ พอใจในสิ่งที่มีอยู่ ไม่ใช่มีแล้วเสื้อผ้า กระเป๋า แหวน อาหาร แต่ก็ยังไม่พอ ยังอยากได้สิ่งที่น่าพอใจเพิ่มขึ้น อยากได้ของอร่อยๆ เพิ่ม สภาพธรรมที่ติดข้องไม่มีวันสิ้นสุดเลย
ทุกคนชอบสนุกเพลิดเพลินอยู่กันทั้งวัน โลภเป็นเพื่อนสนิท โลภเป็นเหตุของทุกข์ทั้งปวง ถ้าไม่มีความติดข้องจะไม่มีทุกข์เลย วันๆ ไม่ใช่มีแต่แสวงหา แต่ควรเห็นโทษของความติดข้อง แล้วพอใจในสิ่งที่มี ไม่เดือดร้อนด้วยโลภ แม้จะชอบโลภ จะไม่ให้มีก็ไม่ได้ แต่ก็รู้ว่าเป็นโทษ เป็นศัตรูที่ใกล้ ทำร้ายแบบไม่รู้ตัว โลภนำมาให้ได้ทั้งหมดทุกภพทุกภูมิ นำมาซึ่งทุกข์ ไม่มีสาระที่แท้จริงไม่มีวันจบ เกิดมาแล้วจะมีแต่สุขตลอดไปก็ไม่ได้ น้อมใจไปที่จะรู้ว่า โลภเป็นโทษจริงๆ หรือเปล่า
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ที่เคารพอย่างยิ่งค่ะ...
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ