ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๙๓
โดย khampan.a  2 เม.ย. 2560
หัวข้อหมายเลข 28732

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๙๓

~ คนที่บวชแล้วไม่ได้ประพฤติปฏิบัติตามพระวินัย มีความเคารพพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือเปล่า?
~ ไม่คิดที่จะศึกษาธรรม ไม่คิดที่จะศึกษาพระวินัย ไม่คิดที่จะขัดเกลากิเลส แล้วบวช ไม่ใช่ภิกษุในพระธรรมวินัย
~ ถ้าภิกษุใด ไม่ประพฤติปฏิบัติตามพระวินัย ภิกษุนั้นไม่ใช่ภิกษุ เพราะฉะนั้น เราอยากให้มีภิกษุแบบไหน ถูกต้องตามพระธรรมวินัย หรือว่า เหมือนฆราวาสทุกอย่าง?

~ ชีวิตของบรรพชิตกับคฤหัสถ์ ต่างกันราวฟ้ากับดิน ไม่ใช่อยากบวช แต่ไม่รู้ว่า พระธรรมวินัยคืออะไร นั่น ไม่ใช่พระภิกษุในพระธรรมวินัย เมื่อมีความประสงค์ที่จะขัดเกลากิเลส ศึกษาธรรม อบรมเจริญปัญญาในเพศบรรพชิต ต้องพร้อมที่จะประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย

~ เป็นชาวพุทธก็ต้องเข้าใจพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อเข้าใจแล้วก็ประพฤติปฏิบัติตาม โดยฐานะของบรรพชิตหรือคฤหัสถ์ ถ้าเป็นคฤหัสถ์ก็ต้องไม่กระทำอกุศลกรรม ทุจริตกรรมต่างๆ และก็ศึกษาธรรมให้เข้าใจถ้าเป็นพระภิกษุ ก็จะต้องประพฤติปฏิบัติตามพระวินัย

~ ถ้าไม่เข้าใจว่า อะไรถูก อะไรผิดก็อยู่กันไปแบบทำผิดมากกว่าทำถูกเพราะเหตุว่าไม่ได้มีความเข้าใจว่าสิ่งใดควร สิ่งใดเป็นความถูกต้อง เพราะฉะนั้น ต้องแยกพุทธบริษัทเป็นสองฝ่าย สองเพศ คือ คฤหัสถ์ก็เป็นคฤหัสถ์ ทำหน้าที่ของคฤหัสถ์บรรพชิตคือพระภิกษุก็ทำหน้าที่ของพระภิกษุจะทำหน้าที่ของคฤหัสถ์ไม่ได้

~ ถ้าไม่มีความเข้าใจพระธรรม บวชทำไม? และบวชทำอะไร? ไม่รู้เลย แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงอนุญาตให้ผู้ที่ได้เข้าใจธรรมที่ประสงค์ที่จะสละชีวิตอย่างคฤหัสถ์ เพื่อดำเนินตามรอยพระบาท ที่ได้สละสมบัติทั้งหมด เพื่อที่จะมีชีวิตที่ขาวสะอาด คือ เกิดมาแล้วก็ได้เข้าใจธรรม แล้วก็อบรมเจริญปัญญา เพื่อที่จะรู้ความจริง จึงสมควรบวช แต่ไม่ใช่คนที่ไม่เข้าใจธรรม ไม่รู้อะไรเลย แล้วจะบวช นี่ ผิดแล้ว

~ ถ้าพระภิกษุไม่ศึกษาพระธรรมวินัย ชีวิตเป็นอยู่ในวันหนึ่งๆ ทำอะไรแล้วสิ่งที่คฤหัสถ์ให้แก่บรรพชิต ให้ใคร ไม่ได้ให้ผู้ที่ทำกิจของพระศาสนา ไม่ได้ให้แก่ผู้ที่ศึกษาธรรมให้เข้าใจ ไม่ได้ให้แก่ผู้ที่ประพฤติปฏิบัติตามพระวินัยเพื่อขัดเกลากิเลส แล้วคฤหัสถ์ให้อะไรใคร เพื่ออะไรนี่เป็นสิ่งที่ต้องตรง นี่จะเป็นการรักษาความถูกต้อง เพราะฉะนั้น การศึกษาธรรม ถูกก็คือถูก และผิดก็คือผิด มิฉะนั้น ก็แก้ไขอะไรไม่ได้ เอาความไม่รู้กับเอาความเข้าใจผิด ไปแก้ไขสิ่งที่ผิดไม่ได้ แต่ต้องเอาความเข้าใจที่ถูกต้อง และก็กระทำสิ่งที่ถูกต้อง แก้ไขสิ่งที่ผิด อันนั้นสามารถที่จะดำรงพระศาสนาไว้ได้

~ ธรรม จะรุ่งเรืองก็ต่อเมื่อมีความเข้าใจถูกต้อง ไม่ใช่คำสอนผิดๆ เผยแพร่กันทั่วโลก แต่ไม่ถูกเลย แล้วก็กล่าวว่า พระศาสนาคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รุ่งเรือง พูดได้อย่างไร ต้องพิจารณาก่อน พระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รุ่งเรือง เมื่อมีผู้เข้าใจถูก แต่ถ้าไม่พูดคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เข้าใจ ไม่ใช่พระศาสนารุ่งเรือง กลับล่มสลาย ถูกทำลาย ด้วยความเข้าใจผิด

~ ชาวพุทธ ต้องฟังพระธรรม แล้วรู้จักว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมอะไรให้เข้าใจถูกต้องอย่างไรและ เริ่มรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อไหร่เมื่อนั้นก็เป็นชาวพุทธ เพราะว่าได้รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจากคำที่พระองค์ได้ตรัสไว้

~ ทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นคำจริงถึงที่สุด ละกิเลสไม่ได้ถ้าไม่เข้าใจธรรม ถ้าไม่มีปัญญา เพราะปัญญาเห็นว่าอะไรถูก อะไรผิด อะไรดี อะไรชั่ว

~ ถ้าเข้าใจธรรมแล้วจะทำชั่วหรือ? มีแต่จะทำดีเท่าที่จะทำได้ ให้คนอื่นได้มีความเข้าใจธรรม พูดความจริงให้เขาค่อยๆ เข้าใจขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่าง ด้วยความอดทน ถ้าไม่มีความอดทนจะสำเร็จไหม? เพราะฉะนั้น ความอดทน ก็เป็นบารมี (คุณความดีที่จะทำให้ถึงฝั่งของการดับกิเลส)

~ เมตตาจะไม่เป็นเหตุให้เกิดทุกข์เลย แต่ว่าโลภะ (ความติดข้อง) เป็นเหตุให้เกิดทุกข์ เพราะฉะนั้น ท่านผู้ฟังจะพิจารณาได้ เวลาที่เกิดความเดือดร้อนใจ ความไม่สบายใจ ความไม่พอใจ ให้ทราบว่าในขณะนั้นไม่ใช่เพราะเมตตา แต่ต้องเป็นเพราะโลภะ เพราะเหตุว่า ถ้าท่านมีความเมตตาต่อบุคคลใดจริงๆ จะไม่เกิดความทุกข์ความเดือดร้อนเลย

~ หนทางเดียวที่จะทำให้กิเลสค่อยๆ ลดกำลังลง ก็คือ การเป็นผู้ที่ไม่ทอดทิ้งการศึกษา การฟังพระธรรม การพิจารณาพระธรรมโดยละเอียด เพื่อที่จะให้เกิดปัญญาที่สามารถจะระลึกได้ รู้ลักษณะของสภาพธรรมในชีวิตประจำวันจริงๆ ซึ่งการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน ก็ย่อมแสดงถึงการเคยได้ฟังพระธรรม การเคยได้พิจารณาพระธรรม และการเข้าใจธรรมในอดีตด้วย

~ กุศลธรรม ตั้งใจไว้ชอบ ไม่มีประโยชน์เลยในการที่จะเกิดโทสะ แต่ว่าถ้าเกิดเมตตา เวลาที่เห็นคนอื่นกระทำอกุศลกรรมก็ดี หรือว่าสภาพจิตใจของคนนั้นเป็นอกุศลก็ดี ควรที่จะมีเมตตาว่า บุคคลนั้นจะต้องสะสมอกุศลจิตและอกุศลกรรมไปมากมาย ควรที่จะมีเมตตาอย่างยิ่ง

~ เราไม่เบียดเบียนเขา แต่อกุศลจิตของเขา ยังคิดร้ายต่อเรา เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องของจิตของแต่ละบุคคล ซึ่งต้องเห็นโทษของกิเลส ตราบใดที่เขาไม่เห็นว่าอกุศลของเขาเป็นโทษ เขาก็ยังโกรธเรา ยังไม่ชอบเราอยู่นั่นเอง ทั้งๆ ที่ใจของเราไม่ได้ทำร้ายเขาเลย นี่ก็เป็นการแสดงให้เห็นแล้วว่า จิตต่างกัน เราเมตตาเขาได้ แต่เขาจะเมตตาเราหรือเปล่า แล้วแต่การสะสมของเขา เราไม่เบียดเบียนเขา แต่เขาจะคิดเบียดเบียนเราหรือเปล่า นั่นก็เป็นเรื่องจิตใจของเขา

~ ไม่ได้ทอดทิ้งธุระในการที่จะศึกษาให้เข้าใจพระธรรม เมื่อเข้าใจพระธรรม ก็สามารถที่จะรู้ว่า การกระทำใดๆ ที่เป็นการที่จะดำรงรักษาพระศาสนาไว้ ต้องเป็นการกระทำที่ถูก ถ้าเป็นการกระทำที่ผิด ทำลายพระศาสนา ไม่ใช่ดำรงพระศาสนา

~ พระธรรมวินัย ยังมีอยู่ครบถ้วน พร้อมที่จะให้ผู้มีศรัทธาและมีความเคารพในพระรัตนตรัย ศึกษาด้วยความเคารพ ด้วยการพิจารณาไตร่ตรอง ไม่บิดเบือน ไม่แก้ไข

~ แม้คฤหัสถ์เองก็ตาม ถ้าให้เหตุผลตามพระธรรมวินัย จะไม่ใช่เพื่อนที่ดี จะไม่ใช่เพื่อนที่หวังดีหรือ? ไม่ใช่ขู่ แต่ว่าพูดความจริงให้เข้าใจถูกต้องตามคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย

~ เวลาที่อกุศลจิตเกิดขึ้น นี้ ขาดน้ำจิตน้ำใจที่จะระลึกถึงความทุกข์หรือว่าความเดือดร้อน หรือว่าความกระหายของคนอื่น จนกระทั่งเป็นนิสัย บางท่านไม่เคยคิดถึงความรู้สึกสุข ทุกข์ของคนอื่นเลย ไม่ว่าเขากำลังหิวก็เฉยๆ ไม่รู้สึกเดือดร้อน ไม่คิดว่าเป็นเรื่องที่ควรจะสงเคราะห์ช่วยเหลือได้ แต่ว่าบางท่านสะสมกุศลที่เป็นเวยยาวัจจะ คือ การสงเคราะห์บุคคลอื่น แม้ในเรื่องเล็กน้อย กุศลจิตก็เกิดขึ้น ระลึกถึง คำนึงถึง ห่วงใยถึง ใคร่ที่จะเกื้อกูลบุคคลนั้นให้พ้นจากความเดือดร้อน ความหิวกระหาย ความทุกข์ยากต่างๆ

~ กุศลทั้งหมดนี้ควรเจริญ เพื่อที่จะขัดเกลา ละคลายอกุศลธรรมให้เบาบาง มิฉะนั้นแล้ว ความรักตัว ความเห็นแก่ตัว ความเห็นผิดว่า มีตัวตนจะเพิ่มพูนขึ้น ทำให้ท่านระลึกถึงแต่ตัวเองตลอดเวลา ไม่คำนึงถึงการที่จะสงเคราะห์บุคคลอื่น
~ พระพุทธศาสนา เป็นเรื่องที่ละเอียดลึกซึ้ง ซึ่งถ้าเข้าใจผิด ก็จะทำลายพระพุทธศาสนา ไม่ใช่เป็นการส่งเสริม
~ พระพุทธศาสนา เป็นหลัก เป็นแกนกลางที่จะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่าง ถูกต้อง และมั่นคง

~ พระธรรมทั้งหมดที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ๔๕ พรรษา เพื่ออบรมจิต บ่มปัญญา เพื่อที่จะขัดเกลากิเลสให้ยิ่งขึ้น เพราะเหตุว่าถ้าไม่มีปัญญาอะไรจะขัดเกลากิเลส

~ ไม่เข้าใจธรรม ไม่ฟังธรรม จะเป็นพุทธบริษัทได้ไหม?

~ ความเป็นผู้ที่จริงใจและไม่ประมาท จะทำให้เห็นพระคุณอย่างยิ่งของการที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงบำเพ็ญพระบารมี มีคำสอนที่สืบทอดมา ไม่ว่าจะในยุคต่อไปก็ตาม ถ้าเรามีโอกาสได้เข้าใจความจริงในยุคนี้บ้าง ต่อไปก็จะเข้าใจขึ้นๆ

~ สิ่งที่ประเสริฐที่สุด คือ ปัญญา เท่านั้น อะไรจะเป็นที่พึ่งได้ พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเรามา ท่านก็จากไป ทุกชาติ แต่ว่าพระธรรมที่ได้ฟังสะสมสืบต่อไปจนกว่าจะถึงความเบิกบานที่ได้รู้ว่า ไม่มีอะไร (นอกจากสภาพธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยแล้วก็ดับไปเท่านั้น)

ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๙๒

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...



ความคิดเห็น 1    โดย j.jim  วันที่ 2 เม.ย. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 2    โดย อดุลย์  วันที่ 2 เม.ย. 2560

ถ้าจะดำรงพระพุทธศาสนา ถ้าจะเป็นคนดี ถ้าจะรู้คุณของพระสัมสัมพุทธเจ้าถ้าจะต้องการเมตตาหรือช่วยเหลือผู้คน ก็ศึกษาคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

กราบอนุโมทนาสาธุครับ


ความคิดเห็น 3    โดย peem  วันที่ 2 เม.ย. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย chamaikorn  วันที่ 2 เม.ย. 2560

ขอบคุณ และขออนุโมทนาคะ


ความคิดเห็น 5    โดย thilda  วันที่ 3 เม.ย. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย มกร  วันที่ 3 เม.ย. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย jaturong  วันที่ 3 เม.ย. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 8    โดย มานิสาโข่งเขียว  วันที่ 3 เม.ย. 2560

อนุโมทนาสาธุ


ความคิดเห็น 9    โดย kukeart  วันที่ 3 เม.ย. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 10    โดย Noparat  วันที่ 3 เม.ย. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 11    โดย Boonyavee  วันที่ 3 เม.ย. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 12    โดย ประสาน  วันที่ 4 เม.ย. 2560

อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านด้วยครับ


ความคิดเห็น 13    โดย p.methanawingmai  วันที่ 10 เม.ย. 2560

สาธุค่ะ


ความคิดเห็น 14    โดย ํํญาณินทร์  วันที่ 12 เม.ย. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 15    โดย chatchai.k  วันที่ 12 เม.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ