..................................ขออนุโมทนานะครับ.
ศึกษาเพื่อ...ละ...ความ...ไม่รู้...
อนุโมทนา
ลืมไปชั่วขณะเลยค่ะว่าศึกษาเพื่ออะไร
....มัวแต่ติดใจแสงสี....
อนุโมทนาค่ะ
.
ไม่ใช่เพื่อ ลาบ คือ ไม่ใช่เพื่อ ลาภ คืดว่า ไม่ใช่เพื่อปากท้อง ไปโน่น
ไฟไหม้ คำว่า รู้ ไหม้รู้ คือ ไม่รู้
ddd มีฉากหลัง คือ กำลัง "คน" ขนม แปลว่า คนดี
แหม...คราวหน้า ขอปริศนาธรรม อีกนะ ถ้าคิดไม่ออกอีกล่ะก็
จะไปถามถึงห้องนอน เลยล่ะคราวนี้
อนุโมทนาครับ
ไม่ใช่เพื่อ ลาบ คือ ไม่ใช่เพื่อ ลาภ คิดว่า ไม่ใช่เพื่อปากท้อง ไปโน่น
ไฟไหม้ คำว่า รู้ ไหม้รู้ คือ ไม่รู้
ddd มีฉากหลัง คือ กำลัง "คน" ขนม แปลว่า คนดี
แหม...คราวหน้า ขอปริศนาธรรม อีกนะ ถ้าคิดไม่ออกอีกล่ะก็
จะไปถามถึงห้องนอน เลยล่ะคราวนี้
โอ้โฮ นี่ถ้าเป็นการสอบเข้านาลันทา ผมคงไม่ได้ผ่านประตูแน่เลยผมขอถอนคำอนุโมทนาอันแรกออกครับ พูดไปโดยรู้ไม่ทั่วถึงแท้ๆ
ขออนุโมทนาทั้งผู้ถามและผู้ตอบครับ
สมเป็นคนรักหนังจริงๆ ไขได้ละเอียดยิบ นับถือๆ (ภาพแรก เข้าใจว่าเป็นผัดกระเพรา ลาภปาก กลายเป็นลาบ เสียนี่...)
คราวหน้าขออีกนะจะได้ฝึกสมองให้แหลม เหมือนแล้วเจอกันถ้าคิดไม่ออกละก็...
เยื่ยมจริงๆ ... ขออนุโมทนาด้วยค่ะ
haha....อดเข้า นาลันทา เหมือนท่าน suwit02
d d dการจะเป็นคนดีได้ รอบเดียวไม่พอเพราะปัญญาขั้นฟังดับกิเลสอะไรไม่ได้เลยต้องอบรมไปจนกว่าจะดีครบ 3 ...จึงจะดีจริงอริยสัจจธรรมมี 3 รอบ : สจญาณ กิจญาณ กตญาณ...ใช่หรือเปล่าก็ไม่รู้ครับ...แต่ผมขอไม่สอบเข้านาลันทานะครับเพราะธรรมะที่มีให้สอบอยู่ทุกๆ วัน ...ยังไม่ผ่านเลยครับ
ขอโทษครับ ที่ทำให้เพื่อน สมาชิก เข้าใจว่าผมคิดได้เอง เพราะโพสต์ข้อความไม่ชัดเจน ใน คำที่ว่า " ถ้าคิดไม่ออกอีกล่ะก็..... " คือ ปริศนาธรรมคราวนี้ คิดไม่ออกครับ และคราวหน้าถ้าคิดไม่ออกอีก.... ใช้คำว่า " อีก" น่ะครับ
สรุปก็คือไม่ได้คิดคำเฉลยได้เองหรอกครับ ไป ถามเจ้าของกระทู้มาแล้วน่ะครับ จึงทราบคำเฉลย แหะๆ ... ขอโทษอีกครั้งครับ เพื่อนๆ
คุณปริศนาก็เข้าใจ หารูป เด็กน่ารักๆ มาฝาก คราวหน้า ขออีก นะครับ (โลภะขอมา)
คราวหน้าขออีกนะ
อ้างอิงจาก : ความคิดเห็นที่ 12 โดย devout
haha....อดเข้า นาลันทา เหมือนท่าน suwit02
เรียน คุณ Devout
เป็น "ท่าน" นี่ไม่ดีเลยครับ เพราะ
๑. ทำอะไรพลาดไปก็ไม่มีใครช่วยสะกิด เพราะใครจะกล้าไปเตือน "ท่าน"
๒. ถึงรู้ว่าตัวเองทำพลาดไปก็ไม่กล้ายอมรับ เพราะเป็น "ท่าน" จะทำผิดได้ไง
๓. อยากรู้อะไรก็ไม่กล้าถาม เพราะมัวอายว่า เรื่องแค่นี้ "ท่าน" ก็ไม่รู้
๔. ตามธรรมดาผมก็มีกิเลสกลุ้มรุมมากอยู่แล้ว นี่จะมีอติมานะตัวใหญ่ขี่คอผมเพิ่ม
จากอติมานะตัวเล็กที่เกาะหลังเป็นประจำอยู่แล้ว ผมเกาะอาการเพียบหนักสิครับ
ขอเป็น "คุณสุวิทย์02" อย่างเดิมดีกว่าจะได้คุยกันสบายๆ อย่างเคยนะครับ
อ่านกระทู้นี้แล้ว ได้ประโยชน์มาก ได้ข้อคิดเตือนใจที่ดี พร้อมทั้งมีการนำเสนอที่ยอดเยี่ยม ทำให้ได้คิดตาม ดูรอบเดียวยังไม่พอ (อีกทั้งอ่านไป ยังหัวเราะไปด้วยครับ) บทสรุปจริงๆ ที่ผมได้จากการศึกษาปริศนาธรรม นี้ คือ "ศึกษาพระธรรม ไม่ใช่เพื่อโลภะ ไม่ใช่เพื่อลาภ ไม่ใช่เพื่อสักการะ ไม่ใช่เพื่อยศ ไม่ใช่เพื่อการสรรเสริญ แต่ต้องเป็นไปเพื่อปัญญา เพื่อให้เกิดปัญญา" "คนข้างนอกที่เขาไม่ได้ศึกษาธรรม เขาก็มีลาภ ยศ สักการะ สรรเสริญกันเยอะแยะ แล้วเราจะมาเอาลาภ ยศ สักการะ สรรเสริญอะไร จากการศึกษาธรรม"
"ธรรม เป็นเรื่องละ ไม่ใช่เรื่องการติดข้อง แต่ต้องละความเห็นผิด และอกุศลธรรมทั้งหมด ซึ่งใครๆ ก็ละให้เราไม่ได้ แต่เราต้องพิจารณาให้เห็นตามความเป็นจริงว่า สิ่งที่ไม่ดีนั้น เราไม่ควรจะสะสมให้มีบ่อยๆ "
ขออนุโมทนาด้วยนะครับ
อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ
)))))))))))))) ก่อนจะ " ละ " ก็ต้อง " รู้ " ((((((((((((((
)))))))))))))))))) ก่อนจะ " รู้ " ก็ต้อง " เข้าใจ " ((((((((((((((
" เข้าใจ " ความจริงของ " สภาพธรรม " ที่กำลังปรากฏขณะนี้
คุณแล้วเจอกันคะ สรุปว่า ใครเป็นคนไขปริศนาธรรมของคุณได้ถูกต้อง ลองออกความคิดเห็นหน่อยซิคะ.
สิ่งใดก็ตามเป็นไปเพื่อละ..สิ่งนั้นก็ถูกต้อง แต่ต้องรู้ว่าอะไรละ เราหรือ?
นี่แหละ ..ปริศนาธรรม สำหรับให้คิด..เพื่อความเห็นถูกในพระธรรม
คุณพรชัย ครับ ถ้าอย่างนั้น
ผมขออนุโมทนาทั้งผู้ถามและผู้นำคำตอบมาเฉลยครับ
อนุโมทนา ผู้ใฝ่ในธรรมทุกท่าน...สาธุ