๑. สัตถุสูตร
โดย บ้านธัมมะ  3 ก.ย. 2564
หัวข้อหมายเลข 36557

[เล่มที่ 26] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้า 389

อันตรเปยยาลที่ ๙

ว่าด้วยบุคคลไม่รู้ไม่เห็นชราและมรณะตามความเป็นจริง

๑. สัตถุสูตร


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 26]



ความคิดเห็น 1    โดย บ้านธัมมะ  วันที่ 31 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้า 389

อันตรเปยยาลที่ ๙

ว่าด้วยบุคคลไม่รู้ไม่เห็นชราและมรณะตามความเป็นจริง

๑. สัตถุสูตร

[๓๐๙] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี ฯลฯ ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมา แล้วได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลเมื่อไม่รู้ไม่เห็นชรามรณะตามเป็นจริง พึงแสวงหาครู เพื่อความรู้ในชรามรณะตามเป็นจริง บุคคลเมื่อไม่รู้ไม่เห็นเหตุเกิดแห่งชรามรณะตามเป็นจริง พึงแสวงหาครู เพื่อความรู้ในเหตุเกิดแห่งชรามรณะตามเป็นจริง บุคคลเมื่อไม่รู้ไม่เห็นความดับแห่งชรามรณะตามเป็นจริง พึงแสวงหาครู เพื่อความรู้ในความดับแห่งชรามรณะตามเป็นจริง บุคคลเมื่อไม่รู้ไม่เห็นปฏิปทาอันให้ถึงความดับแห่งชรามรณะตามเป็นจริง พึงแสวงหาครูเพื่อความรู้ในปฏิปทาอันให้ถึงความดับแห่งชรามรณะตามเป็นจริง.

[เปยยาลแห่งบาลีประเทศทั้งปวงอย่างนี้]

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลเมื่อไม่รู้ไม่เห็นชาติตามเป็นจริง... เมื่อไม่รู้ไม่เห็นภพตามเป็นจริง... เมื่อไม่รู้ไม่เห็นอุปาทานตามเป็นจริง... เมื่อไม่รู้ไม่เห็นตัณหาตามเป็นจริง... เมื่อไม่รู้ไม่เห็นเวทนาตามเป็นจริง... เมื่อไม่รู้ไม่เห็นผัสสะตามเป็นจริง... เมื่อไม่รู้ไม่เห็นสฬายตนะตามเป็นจริง... เมื่อไม่รู้ไม่เห็นนามรูปตามเป็นจริง... เมื่อไม่รู้ไม่เห็นวิญญาณตามเป็นจริง... เมื่อไม่รู้ไม่เห็นสังขารทั้งหลายตามเป็นจริง พึงแสวงหาครู เพื่อความรู้ในสังขารทั้งหลายตามเป็นจริง เมื่อไม่เห็นเหตุเกิดแห่งสังขารตามเป็นจริง พึงแสวงหาครู เพื่อความรู้ในเหตุเกิด


ความคิดเห็น 2    โดย บ้านธัมมะ  วันที่ 31 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้า 390

แห่งสังขารตามเป็นจริง เมื่อไม่รู้ไม่เห็นความดับแห่งสังขารตามเป็นจริง พึงแสวงหาครู เพื่อความรู้ความดับแห่งสังขารตามเป็นจริง เมื่อไม่รู้ไม่เห็นปฏิปทาอันให้ถึงความดับแห่งสังขารตามเป็นจริง พึงแสวงหาครู เพื่อความรู้ในปฏิปทาอันให้ถึงความดับแห่งสังขารตามเป็นจริง.

[พึงกระทำกิจในอริยสัจ ๔ แห่งปัจจยาการทั้งปวง เป็นสูตรหนึ่งๆ]