พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 91
คูถภาณีสูตร (ว่าด้วยผู้พูด ๓ จำพวก) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๓ นี้ มีอยู่ในโลก บุคคล ๓ คือใคร คือ คูถภาณี (คนพูดเหม็น) ปุปผภาณี (คนพูดหอม) มธุภาณี (คนพูดหวาน)
บุคคลคูถภาณีเป็นอย่างไร บุคคลลางคนในโลกนี้ เข้าสภาก็ดี เข้าชุมนุมชนก็ดี เข้าหมู่ญาติก็ดี เข้าหมู่ข้าราชการก็ดี เข้าหมู่เจ้าก็ดี ถูกนำตัวไปซักถามเป็นพยานว่า "มา บุรุษผู้เจริญ ท่านรู้อันใดจงบอกอันนั้น" บุคคลนั้น ไม่รู้ กล่าวว่ารู้บ้าง รู้กล่าวว่าไม่รู้บ้าง ไม่เห็น กล่าวว่าเห็นบ้าง เห็น กล่าวว่าไม่เห็นบ้าง เป็นผู้กล่าวเท็จทั้งรู้ เพราะเห็นแก่ตนบ้าง เพราะเห็นแก่คนอื่นบ้าง เพราะเห็นแก่ลาภผลเล็กน้อยบ้าง ดังนี้ นี่ ภิกษุทั้งหลายเราเรียกว่า บุคคลคูถภาณี
ก็บุคคลปุปผภาณีเป็นอย่างไร บุคคลลางคนในโลกนี้ เข้าสภาก็ดีฯลฯ ถูกนำตัวไปซักถามเป็นพยาน ฯลฯ บุคคลนั้นไม่รู้ ก็กล่าวว่าไม่รู้ รู้ ก็กล่าวว่ารู้ ไม่เห็น ก็กล่าวว่าไม่เห็น เห็น ก็กล่าวว่าเห็น ไม่เป็นผู้กล่าวเท็จทั้งรู้ เพราะเห็นแก่ตนบ้าง ฯลฯ ดังนี้ นี่ ภิกษุทั้งหลาย เราเรียกว่า บุคคลปุปผภาณี
ก็บุคคลมธุภาณีเป็นอย่างไร บุคคลลางคนในโลกนี้ เป็นผู้ละวาจาหยาบ เว้นจากวาจาหยาบแล้ว วาจาใดไม่มีโทษ สบายหู น่าดูดดื่มจับใจ เป็นคำชาวเมือง เป็นที่ใคร่ เป็นที่พอใจแห่งชนมาก เป็นผู้กล่าววาจาอย่างนั้น นี่ ภิกษุทั้งหลาย เราเรียกว่า บุคคลมธุภาณี
นี้แล ภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๓ มีอยู่ในโลก.
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ