การสมาทานศีล และการที่ศีลไม่กำเริบ [สีลวเถรคาถา]
โดย wittawat  12 พ.ค. 2554
หัวข้อหมายเลข 18346

ความหมายของ "การสมาทานศีล และการที่ศีลไม่กำเริบย่อมมีด้วยกำลังแห่งญาณ" [สีลวเถรคาถา] สมาทานศีล คือ กุศลศีล เป็นขณะที่ถือศีลเป็นข้อปฏิบัติ โดยไม่ละเมิดในศีลแต่ละข้อ ซึ่งไม่ใช่การบอกแล้วท่องตาม กำเริบ คือ ความขาด ด่าง พร้อยของศีล ศีลไม่กำเริบ คือ ศีลที่ถึงความมั่นคง ไม่เสีย ไม่หวั่นไหวไปในทางที่เป็นอกุศล ศีลไม่กำเริบย่อมมีด้วยกำลังแห่งญาณ คือ ปัญญาที่เข้าใจถูกต้องตามความเป็นจริงแล้ว ศีลจะค่อยๆ บริสุทธิ์ขึ้น ไม่ล่วงละเมิด จนกระทั่งถึงความบริสุทธิ์สมบูรณ์แล้วก็ไม่ล่วงศีลอีกเลย เมื่อเป็นพระโสดาบัน (ความบริบูรณ์ของศีล ๕) การสมาทานศีล และ การที่ศีลไม่กำเริบย่อมมีด้วยกำลังแห่งญาณ คือ การถือศีลเป็นข้อประพฤติปฏิบัติเฉพาะตน เช่น ความคิดความตั้งใจที่จะไม่ฆ่า เพราะการเห็นโทษของการประทุษร้ายกันน่ารังเกียจ ซึ่งทำให้มีการเสียชีวิตไป แต่บางกาลอาจจะฆ่าในเวลาที่มีโจรภัย กุศลเจตนาที่คิดไว้ตั้งใจไว้ที่จะเว้นทุจริตแต่เมื่ออกุศลศีลกำเริบก็เป็นเหตุทำให้ล่วงทุจริตได้ จนกว่าจะถึงความมั่นคงของปัญญา อ่านข้อความเตือนสติทั้งหมดจากสีลวเถร คาถา..ข้อความเตือนสติเรื่องสีลวเถรคาถา



ความคิดเห็น 1    โดย chatchai.k  วันที่ 12 พ.ค. 2554

ขออนุโมทนาในกุศลศรัทธาและวิริยะของท่าน


ความคิดเห็น 2    โดย orawan.c  วันที่ 12 พ.ค. 2554

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย ธนฤทธิ์  วันที่ 12 พ.ค. 2554
ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ

ความคิดเห็น 4    โดย wannee.s  วันที่ 12 พ.ค. 2554

ศีลเป็นเบื้องต้น และเป็นที่รองรับของกุศลธรรมทั้งหลายค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย khampan.a  วันที่ 12 พ.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ