คนที่ร่างกายสูงๆ และเตี้ยๆ
โดย lovedhamma  4 ก.พ. 2557
หัวข้อหมายเลข 24413

คนที่สูงเกินไป และ คนที่เตี้ยเกินไป เกิดจากอะไร



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 4 ก.พ. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การมีรูปร่างสมส่วน ไม่สูง ไม่ต่ำเตี้ยเกินไป ลักษณะของสัตว์โลก ก็มีเหตุปัจจัยทำให้มีความแตกต่างกันไป ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงแสดงครับว่า เพราะ กรรม จึงทำให้สัตว์มีรูปร่างแตกต่างกันไปครับ

การที่เกิดมารูปร่างดี สมส่วน ไม่สูงเกิน ไม่เตี้ย ก็ต้องมีเหตุ เช่นกันครับ ซึ่ง ก็ไม่พ้นจากกรรม คือ จะต้องเป็นเพราะ กุศลกรรม ที่ทำให้มีรูปร่างดี สมส่วน ครับ

ในเรื่องของกรรมที่ทำให้หน้าตาดี รูปร่างดี พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ ในความละเอียดหลากหลายนัยดังนี้ครับ

เหตุปัจจัยอีกประการหนึ่ง ที่ทำให้บุคคลบางคนในโลกนี้ มีรูปร่างดี สมส่วน ไม่เตี้ย ไม่สูงเกินไป เพราะกุศลกรรมเช่นกัน คือ ความเป็นผู้รักษาศีล เมื่อ เป็นผู้ประกอบกุศลกรรม คือ การรักษาศีล เมื่อกรรมนี้ให้ผล ย่อมทำให้เป็นผู้มีรูปร่างดีครับ

ซึ่งในลักขณสูตร แสดงไว้ครับว่า การที่มีร่างกายตรง สมส่วน ก็เพราะ กรรมดี คือการไม่ฆ่าสัตว์ งดเว้นจากปาณาติบาต อีกนัยหนึ่ง ผลของกุศลกรรม แม้แต่การให้ทาน ก็ทำให้มีรูปร่างดีสมส่วน ครับ คือ การให้ทานด้วยศรัทธา ก็ทำให้มีรูปร่าง หน้าตาดี เมื่อกรรมนี้ให้ผล ครับ

[เล่มที่ 36] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓- หน้าที่ 314

๘. สัปปุริสทานสูตร

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตบุรุษครั้นให้ทานด้วยศรัทธาแล้ว ย่อมเป็นผู้มั่งคั่ง มีทรัพย์มาก มีโภคะมาก และเป็นผู้มีรูปสวยงามน่าดู น่าเลื่อมใส ประกอบด้วยผิวพรรณงามยิ่งนัก ในที่ที่ทานนั้นเผล็ดผล (บังเกิดขึ้น)

สรุปได้ว่า เพราะ กุศลกรรม เป็นปัจจัย ก็ทำให้รูปร่างที่เกิดขึ้น มีรูปร่างที่ดี หน้าตาดี เพราะอาศัย กุศลกรรม ทำให้เกิดวิบากที่ดี คือ จิต เจตสิกที่ดี รูปที่เกิดพร้อมกัน กับปฏิสนธิจิต รวมทั้งรูปอื่นๆ ที่เกิดหลังจากปฏิสนธิจิต ก็อาศัย กรรม คือ กุศลกรรมอุปถัมภ์ ทำให้เกิดรูปร่าง หน้าตาที่ดี นั่นเอง ครับ

ส่วน การที่เตี้ย และ สูงเกินไป ก็ต้องเป็นผลของอกุศลกรรม มี การฆ่าสัตว์ เป็นต้นที่ทำให้ร่างกาย ไม่สมส่วน ครับ และ ในตัวอย่างในพระไตรปิฎก อย่างเช่น อดีตชาติของท่านพระเถระ ที่ชื่อ พระลกุณฎกภัททิยะเถระ ท่านก็เกิดมามีร่างกายเตี้ย คนอื่นๆ ก็ล้อท่าน ทั้งๆ ที่ท่านเป็นพระอรหันต์ เพราะ เหตุที่ ในอดีตชาติ ท่านเคย เป็นแม่ทัพ สร้าง พระมหาเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าพระนามว่า กัสสปะ ได้ขนาดลง ให้เหลือความสูงเพียงโยชน์เดียว จากที่เคยตกลงกันไว้ว่าจะสร้างเจ็ดโยชน์ เพราะ ผลของการลดความสูงของพระพุทธเจ้าที่มีพระคุณอันสูงสุด ทำให้ท่านมีร่างกายเตี้ย นี่คือ รายละเอียด บางประการ แต่โดยมากแล้ว ผู้ที่มีร่างกายไม่สมส่วน ก็เพราะเศษกรรมที่เป็นอกุศลกรรมในอดีต กรรมใด กรรมหนึ่ง ทำให้มีรูปร่างกาย ไม่สมส่วน มี การทำปาณาติบาต เป็นต้น ตามที่กล่าวมาแล้ว ครับ

กรรม ยุติธรรมที่สุดในการให้ผล เหตุย่อมสมควรแก่ผล เมื่อเหตุดี ผลก็ต้องเป็นผลที่ดี น่าปรารถนาน่าใคร่น่าพอใจ ในทางตรงกันข้าม เมื่อเหตุไม่ดี ผลก็ย่อมจะเป็นผลไม่ดี ตามสมควรแก่เหตุที่ไม่ดี ซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เลย ธรรมเป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น เกิดมาสวย หน้าตาดี น่าดูน่าชม ต้องเป็นผลของความดีอย่างแน่นอน

แต่ละบุคคลที่เกิดมานั้น จะเป็นคนดีหรือไม่ดี หรือที่เรียกวันว่า นิสัยดี หรือ ไม่ดี นั้น ไม่ได้อยู่ที่รูปลักษณ์ภายนอก ไม่ได้อยู่ที่สวย หล่อ หรือไม่สวย ไม่หล่อ รวมไปถึงไม่ได้อยู่ที่ฐานะ ตระกูล หรือ ยศถาบรรดาศักดิ์ แต่อยู่ที่จิต เพราะเหตุว่าเมื่อจิตดี คือ เป็นกุศลจิต ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ก็ย่อมดีทั้งนั้น แต่เมื่อจิตไม่ดี คือ เป็นอกุศลจิต ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามเช่นเดียวกัน ก็ไม่ดี ทั้งนั้น ความไม่ดี จะมากหรือน้อย ก็ไม่ดี จะถือเอารูปลักษณ์ภายนอกเป็นประมาณไม่ได้เลย ดังนั้น จิต จึงมีความสำคัญมาก ขึ้นอยู่กับว่า จะเป็นจิตที่ดี หรือ ไม่ดี เท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามการสะสมมาของแต่ละบุคคลจริงๆ ไม่เหมือนกับเลย ซึ่งจะเห็นได้ว่าการที่บุคคลทำกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกุศลหรือ อกุศล ก็สำเร็จแล้วด้วยจิต ทั้งนั้น กล่าวคือ เมื่อจิตดี (เป็นกุศล) ก็สำเร็จเป็นกรรมดี ทำในสิ่งที่ดีงาม และเมื่อกรรมดีให้ผล ก็ให้ผลที่ดี น่าปรารถนา น่าใคร่น่าพอใจ ในทางตรงกันข้าม ถ้าจิตไม่ดี (เป็นอกุศล) ก็สำเร็จเป็นกรรมไม่ดีและให้ผลเป็นทุกข์ นำมาซึ่งความเดือดร้อนนานาประการ และผลดังกล่าวก็ย่อมเกิดกับตนเองเท่านั้นในเมื่อเป็นกรรมที่ตนเองได้กระทำไว้ ก็ตนเองนั่นแหละที่จะเป็นผู้ได้รับผลของกรรมนั้น ครับ

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย papon  วันที่ 4 ก.พ. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 3    โดย khampan.a  วันที่ 4 ก.พ. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงว่า การเกิดเป็นมนุษย์ เป็นสิ่งที่ได้แสนยาก เพราะจะต้องได้ด้วยผลของกุศล ไม่ได้จำกัดว่าจะเป็นผลของกุศลประเภทใด ขึ้นอยู่กับว่ากุศลประเภทใดจะให้ผล [ซึ่งต้องไม่ใช่ผลของฌานขั้นต่างๆ อย่างแน่นอน เพราะผลของฌานขั้นต่างๆ ทำให้เกิดในพรหมโลก ตามระดับขั้นของฌาน] ถ้าเทียบกันระหว่างสุคติภูมิ กับ อบายภูมิแล้ว การไปเกิดในอบายภูมิ ไปได้ง่ายกว่าสุคติภูมิจริงๆ ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงเปรียบเทียบไว้ด้วยข้ออุปมาฝุ่นที่ปลายพระนขา (เล็บ) ที่พระองค์ทรงช้อนขึ้นมา กับ ผืนแผ่นดิน ว่า ผู้ที่เกิดเป็นมนุษย์ มีเป็นส่วนน้อยเหมือนกับฝุ่นที่อยู่ปลายพระนขาของพระองค์ ส่วน ผู้ที่ไปเกิดเป็นสัตว์ในอบายภูมิ มีมาก เหมือนกับผืนแผ่นดิน ซึ่งควรจะได้พิจารณาเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรม ไม่ได้ศึกษาพระธรรม ก็จะเป็นผู้ไม่รู้ต่อไป ไม่คุ้มค่าเลยกับการที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ซึ่งได้ยากแสนยาก แต่ไม่ได้สะสมปัญญา ก็จะทำให้ตายไปพร้อมกับความไม่รู้ และจะไม่รู้อีกต่อไปนานแสนนานในสังสารวัฏฏ์ ยากที่จะพ้นไปได้

เกิดมาแล้ว มีร่างกายสูงหรือต่ำ ไม่ใช่สาระสำคัญ สาระสำคัญอยู่ตรงที่ว่าผู้นั้น ได้สะสมความดี และ มีการอบรมเจริญปัญญาจากการได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง การมีโอกาสได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ฟังในสิ่งที่มีจริงบ่อยๆ เนืองๆ สะสมความเข้าใจที่ถูกต้องไปตามลำดับ ได้สะสมความดี และ สะสมปัญญา ย่อมเป็นชีวิตที่คุ้มค่า คุ้มค่าแล้วกับการที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ที่มีอวัยวะครบถ้วน [พร้อมที่จะรองรับพระธรรม] และได้พบพระพุทธศาสนา ได้ฟังพระธรรมซึ่งหาฟังได้ยากเป็นอย่างยิ่งจากบุคคลผู้มีปัญญา เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ก็ควรที่จะได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา เพื่อรู้สภาพธรรม คือ นามธรรมและรูปธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง ต่อไป เวลาของแต่ละบุคคล เหลือน้อยเต็มทีแล้ว ถ้าไม่เริ่มฟัง ไม่เริ่มศึกษาตั้งแต่ในขณะนี้ การที่จะฟัง การที่จะศึกษาในขณะต่อๆ ไป ก็จะมีไม่ได้ เริ่มต้นตั้งแต่ในขณะนี้ เป็นการดีอย่างยิ่ง ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 4    โดย wannee.s  วันที่ 4 ก.พ. 2557

คนสูงเกินไป และ เตี้ยเกินไป เพราะ อกุศลกรรมให้ผล เช่น ผู้ที่ลดขนาดพระเจดีย์ก็ทำให้เตี้ย ค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย chatchai.k  วันที่ 15 ม.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ