พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงว่า ตราบใดที่ยังมีกิเลส ยังมีอวิชชา ยังมีตัณหา ก็ยังต้องเกิด เมื่อเกิดมาแล้วก็มีทุกข์เรื่อยไป
การเกิดในภพต่างๆ เป็นสัตว์โลกประเภทต่างๆ เป็นผลมาจากการที่ยังไม่ได้ดับกิเลส ไม่ว่าจะเกิดเป็นใคร ก็ไม่พ้นไปจากความเป็นไปของสภาพธรรม คือ จิต เจตสิก และ รูป ในเรื่องเหตุแห่งการเกิด พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงว่า ตราบใดที่ยังมีกิเลส ยังมีอวิชชา ยังมีตัณหา ก็ยังต้องเกิด เมื่อเกิดมาแล้วก็มีทุกข์เรื่อยไป จนกระทั่งตาย เพราะชีวิตก็เป็นแต่เพียงนามธรรมและรูปธรรมแต่ละชนิดที่เกิดขึ้นแล้วก็ดับไปอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าจะมีความสุขชั่วครั้งชั่วคราว ความสุขนั้นก็ไม่เที่ยง แม้แต่ความทุกข์ก็ไม่เที่ยง ความรู้สึกไม่สุขไม่ทุกข์คือรู้สึกเฉยๆ ก็ไม่เที่ยง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนไม่เที่ยงทั้งสิ้น
ดังนั้น ต้องอบรมเจริญปัญญาให้เห็นชีวิตตามความเป็นจริง คือ เห็นการเกิดขึ้นและดับไปของสภาพธรรมทั้งหลายตามความเป็นจริง พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงพระธรรมตลอด ๔๕ พรรษา ก็เพื่อให้สัตว์โลกถึงการดับทุกข์อย่างแท้จริง การดับทุกข์ที่แท้จริงนั้น ต้องดับกิเลสทั้งปวงและดับการเกิดด้วย
เพราะเหตุว่า เมื่อไม่มีการเกิด ก็ไม่ต้องประสบกับทุกข์ประการต่างๆ ไม่ต้องมีการเวียนว่ายตายเกิดอีกในสังสารวัฏฏ์ สิ้นทุกข์โดยประการทั้งปวง ต้องเริ่มที่การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ ซึ่งไม่ใช่แค่ชาตินี้ชาติเดียว แต่ต้องอบรมเจริญเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ที่สำคัญ คือ ไม่ขาดการฟังพระธรรม