[เล่มที่ 71] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 457
เถราปทาน
โสภิตวรรคที่ ๑๔
ปุปผฉทนิยเถราปทานที่ ๔ (๑๓๔)
ว่าด้วยผลแห่งการโปรยดอกไม้เป็นหลังคา
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 71]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 457
ปุปผฉทนิยเถราปทานที่ ๔ (๑๓๔)
ว่าด้วยผลแห่งการโปรยดอกไม้เป็นหลังคา
[๑๓๖] (เราเป็น) พราหมณ์มีนามชื่อว่าสุนันทะ ผู้รู้จบมนต์ เป็นผู้เล่าเรียน เป็นผู้ควรขอ ได้บูชายัญชื่อวาชเปยยะ.
ในกาลนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ ผู้ ทรงรู้แจ้งโลกผู้เลิศ เป็นพระฤาษีกอปรด้วยพระกรุณา ทรง เอ็นดูหมู่ชน เสด็จจงกรมอยู่ในอากาศ.
พระสัพพัญญูพุทธเจ้าผู้เป็นนายกของโลก เสด็จจงกรม แล้ว ทรงแผ่เมตตาไปในบรรดาสัตว์หาประมาณมิได้ ไม่มี อุปธิ.
พราหมณ์ผู้รู้จบมนต์ เด็ดดอกไม้ที่ขั้วแล้ว ประชุมศิษย์ ทั้งหมด ให้ศิษย์ช่วยกันโยนดอกไม้ขึ้นไปในอากาศ.
ในกาลนั้น หลังคาดอกไม้ได้มีตลอดทั่วพระนครไม่หายไป (คงมีอยู่) ตลอด ๗ วัน ด้วยพุทธานุภาพ.
ด้วยกุศลมูลนั้น พราหมณ์ผู้รู้จบมนต์ได้เสวยสมบัติแล้ว กำหนดรู้อาสวะทั้งปวง ข้ามโลก ๓ และตัณหาได้แล้ว.
ในกัปที่ ๑,๑๐๐ แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิจอม กษัตริย์ ๓๕ ครั้ง มีพระนามเหมือนกันว่าอัมพรังสะ มีพละมาก.
คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และ อภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 458
ทราบว่า ท่านพระปุปผฉทนิยเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย ประการฉะนี้แล.
จบปุปผฉทนิยเถราปทาน
๑๓๔. อรรถกถาปุปผฉทนิยเถราปทาน
อปทานของท่านพระปุปผฉทนิยเถระ มีคำเริ่มต้นว่า สุนนฺโท นาม นาเมน ดังนี้.
แม้พระเถระรูปนี้ ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้ว ในพระพุทธเจ้า พระองค์ก่อนๆ หลายภพที่ผ่านมา จะสั่งสมแต่บุญอันเป็นอุปนิสัยแห่ง พระนิพพาน ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่าปทุมุตตระ ท่านได้บังเกิดในตระกูลพราหมณ์ บรรลุนิติภาวะแล้ว สำเร็จการศึกษา ในศิลปะประจำตัวแล้ว เป็นผู้มีโภคะมาก มียศยิ่งใหญ่ ยินดียิ่งในการ บริจาคทาน วันหนึ่ง ท่านสละมหาทานด้วยคิดว่า ขึ้นชื่อว่าพวกยาจก เหล่านี้ในชมพูทวีปทั้งสิ้น อย่าได้วัตถุด้วยคิดว่า เราไม่ได้สิ่งของเลย. ในคราวนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่าปทุมุตตระ ได้เสด็จไป ทางอากาศพร้อมด้วยบริวาร. พราหมณ์เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ นั้นแล้ว มีจิตเลื่อมใส ให้เรียกพวกศิษย์ของตนมาแล้ว ให้นำเอาดอกไม้ ทั้งหลายมาแล้ว โยนขึ้นบูชาในอากาศ. ดอกไม้เหล่านั้นได้ปกคลุมนคร ทั้งสิ้น ตั้งอยู่ได้ตลอด ๗วัน.
ด้วยบุญกรรมนั้น ท่านได้เสวยความสุขในเทวโลกและในมนุษยโลกแล้ว ในพุทธุปบาทกาลนี้ ท่านได้เกิดในเรือนอันมีตระกูลแห่งหนึ่ง
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 459
มีศรัทธาบวชแล้ว พอจรดปลายมีดโกนเท่านั้นก็บรรลุพระอรหัตแล้ว ระลึก ถึงบุพกรรมของตนได้ เกิดความโสมนัส เมื่อจะประกาศถึงเรื่องราวที่ตน เคยได้ประพฤติมาแล้วในกาลก่อน จึงกล่าวคำเริ่มต้นว่า สุนนฺโท นาม นาเมน ดังนี้. ถ้อยคำที่เหลือทั้งหมดนั้น มีเนื้อความง่ายทั้งนั้น เพราะ ได้กล่าวไว้แล้วในหนหลังแล.
จบอรรถกถาปุปผฉทนิยเถราปทาน