ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การฟังธรรมจะเกิดประโยชน์ที่ได้ฟังว่า ทุกอย่างเป็นธรรม มีความเห็นตรงจริงๆ หรือว่าฟังเพื่อที่จะเป็นปัญญาที่สามารถที่จะรู้จริงๆ ว่า ขณะนี้เป็นธรรม ถ้าไม่ได้ยินคำนี้เลย ว่า ทุกอย่างเป็นธรรม ก็ไม่สามารถเข้าถึงหรือที่จะถึงลักษณะของธรรม ที่ไม่ใช่ตัวตนเลย
แต่ไม่ใช่เพียงฟังแล้วก็บอกว่ารู้แล้ว เข้าใจแล้ว เพราะเดี๋ยวก็ถามอีก เรื่องของธรรม เพราะไม่แน่ใจว่า เป็นธรรมหรือเปล่า ทั้งๆ ที่ได้ยินได้ฟังว่า ทุกอย่างที่มีจริงเป็นธรรม เพราะฉะนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่า เมื่อได้ยินได้ฟังแล้ว ขณะนั้นเป็นความเข้าใจระดับไหน เป็นทิฏฐุชุกรรม เริ่มมีความเห็นตรง เพื่อที่จะได้ฟังต่อไป เข้าใจให้ถูกต้องยิ่งขึ้น ขณะนั้นผู้นั้นก็จะรู้ว่ากำลังเข้าใจ เพราะลักษณะของปัญญาเจตสิกเกิดร่วมด้วยในขณะนั้น บางคนไม่มีแม้แต่ทิฏฐุชุกรรม การเห็นตรง ได้ยินคำว่า อนัตตา ก็บอกว่า อัตตา ก็มี อย่างนี้ก็เห็นไม่ตรง เพราะฉะนั้น สิ่งที่ได้ยินได้ฟัง แม้ว่าเป็นความจริง แต่ขึ้นอยู่ว่า จิตขณะนั้นกระทำความเห็นให้ตรง จิต และเจตสิกที่เกิดขณะนั้นเห็นตรงตามที่ได้ฟังหรือว่า ยังไม่ได้เห็นตรงตามที่ได้ฟัง และกว่าจะมีความเข้าใจใน คำ นี้จริงๆ ก็จะต้องเป็นการฟังแล้วก็ค่อยๆ เข้าใจขึ้นจากคำที่ได้ยิน และจากสภาพธรรมที่ปรากฏจนกว่าจะรู้ได้ ไม่ปฏิเสธเลยว่า ขณะนี้มีสิ่งที่ปรากฏ ได้ยิน คำว่า สิ่งที่ปรากฏ ไม่ใช่ตัวตน ทำความเห็นให้ตรง แต่ยังไม่สามารถที่จะเห็นถูกต้องตามความเป็นจริงของลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏได้.
ขอเชิญคลิกอ่านเพิ่มได้ที่.....
อุชุกตา [นิทเทสวาร]
ความหมายของ ทิฏฐุชุกัมม
..กราบเท้าบูชาคุณท่าน อ.สุจินต์ บริหารวันนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างค่ะ
ขออนุโมทนาครับ