ข้อความในพระสุตตันตปิฏก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต นิทานสูตร ว่าด้วยอกุศลมูลและกุศล มีดังนี้
“ (๓๑๐) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหตุเพื่อเกิดกรรม (อกุศลกรรม) ๓ ประการเป็นไฉน คือ โลภะ ๑ โทสะ ๑ โมหะ ๑… ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เทวดา มนุษย์ หรือแม้สุคติอย่างใดอย่างหนึ่งย่อมไม่ปรากฏ เพราะกรรมที่เกิดแต่โลภะ แต่โทสะ โดยที่แท้ นรกกำเนิดสัตว์เดรัจฉาน ปิตติวิสัย หรือแม้ทุคติอย่างใดอย่างหนึ่ง ย่อมปรากฏ เพราะกรรมที่เกิดแต่โลภะ แต่โทสะ แต่โมหะ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหตุเพื่อเกิดกรรม ๓ ประการนี้แล
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหตุเพื่อเกิดกรรม (กุศลกรรม) ๓ ประการนี้ ๓ ประการเป็นไฉน คือ อโลภะ ๑ อโทสะ ๑ อโมหะ ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลายนรก กำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ปิตติวิสัยหรือแม้ทุคติอย่างใดอย่างหนึ่ง ย่อมไปปรากฏเพราะกรรมที่เกิดแต่อโลภะ แต่อโทสะ แต่อโมหะ โดยที่แท้เทวดามนุษย์ หรือ แม้สุคติอย่างใดอย่างหนึ่ง ย่อมปรากฏเพราะกรรมที่เกิดแต่อโลภะ แต่อโทสะ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหตุเพื่อเกิดกรรม ๓ ประการนี้แล”
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงเหตุ ๖ ประการ ที่เป็นต้นเหตุให้เกิดการกระทำต่างๆ กล่าวคือ ต้นเหตุให้กระทำความชั่ว (อกุศลกรรม) มี ๓ ประการ ที่เป็นรากเหง้าทำให้อกุศลเจริญงอกงาม ได้แก่ โลภะ (ความโลภ) โทสะ (ความโกรธ) โมหะ (ความไม่รู้) และต้นเหตุให้กระทำความดี (กุศลกรรม) มี ๓ ประการ ที่เป็นรากเหง้าทำให้กุศลเจริญงอกงาม ได้แก่ อโลภะ (ความไม่โลภ ความเอื้อเฟื้อ) อโทสะ (ความไม่โกรธ ความเมตตา) อโมหะ (ความเห็นถูกในสภาวธรรม)
จากหนังสือ กรรมคำตอบของชีวิต
ขออนุโมทนาครับ
อนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ