ตอบความเห็นที่ 17 สัจจะต้องเป็นไปในทางกุศลเท่านั้นค่ะ
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จริยาปิฎก เล่ม ๙ ภาค ๓ - หน้าที่ 481
๑๐. มัจฉราชจริยา ว่าด้วยจริยาวัตรของพระยาปลา
เราคิดแล้ว ได้เห็นความสัตย์อันเป็นอรรถเป็นธรรมว่า เป็นที่พึ่งของหมู่ญาติได้ เราตั้งอยู่ในความสัตย์แล้ว จะเปลื้องความพินาศใหญ่ของหมู่ญาตินั้นได้ เรานึกถึงธรรมของสัตบุรุษ คิดถึงการไม่เบียดเบียนสัตว์ อันตั้งอยู่ในเที่ยงแท้ในโลก ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งได้ แล้วได้กระทำสัจกิริยาว่า ตั้งแต่เราระลึกตนได้ ตั้งแต่เรารู้ความมา จนถึงบัดนี้ เราไม่รู้สึกว่าแกล้งเบียดเบียนสัตว์แม้ตัวหนึ่งให้ได้รับความลำบากเลย ด้วยสัจวาจานี้ ขอเมฆจงยังฝนให้ตกห่าใหญ่
แน่ะเมฆ ท่านจงเปล่งสายฟ้าคำรามให้ฝนตก จงทำขุมทรัพย์ของกาให้พินาศไป ท่านจงยังกาให้เดือดร้อนด้วยความโศก จงปลดเปลื้อง ฝูงปลาจากความโศก พร้อมกับเมื่อเราทำ สัจกิริยา เมฆส่งเสียงสนั่นครั่นครื้น ยังฝนให้ตกครู่เดียว ก็เต็มเปี่ยมทั้งที่ดอนและที่ลุ่ม
ยินดีในกุศลจิตค่ะ