ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ในกาลที่ท่านอาจารย์ ได้รับเชิญจากกลุ่มศึกษาธรรมที่จังหวัดลพบุรี เพื่อร่วม สนทนาธรรมที่โรงแรมศุภาลัย ป่าสักรีสอร์ทแอนด์สปา อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ในระหว่างวันที่ ๒๒ - ๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๒ ที่ผ่านมานั้น แม้ว่าข้าพเจ้ามีโอกาสได้ไปร่วม ฟังเพียงวันเดียว แต่ก็อดไม่ได้ที่จะขออนุญาตนำภาพและข้อความบางตอนที่ได้รับฟัง มาแบ่งปันให้ทุกท่านที่ไม่มีโอกาสได้ไปร่วมฟังด้วยในวันนั้น ดังนี้
ท่านอาจารย์ "..เพราะฉะนั้น บางคนก็อาจจะคิดว่า เรียนธรรมะทำไม ก็อาจจะคิดว่าเสียเวลานะคะ เวลานี้ทำอะไรหรือคะ ที่ว่าเสียไป นอนหรือว่าไปเที่ยว? หรือว่าไปทำอะไร กับการที่มีความเข้าใจถูก เห็นถูกในสิ่งซึ่งไม่มีใครสามารถที่จะให้ความเห็นถูก หรือความเข้าใจถูก อย่างนี้ได้เลย ถ้าไม่มีการฟังพระธรรม"
"เพราะฉะนั้น ผู้ที่เข้าใจจริงๆ ก็จะรู้ว่า พระธรรมมีคุณประโยชน์ และ ก็การศึกษานี้คือการศึกษาให้เข้าใจจริงๆ จนตายพอไหม ยังไม่พอค่ะ"
คุณคำปั่น "ก็เป็นจริงอย่างนั้นใช่ไหมครับ ว่าขณะที่ฟังธรรมะก็ต้องเป็นความเข้าใจของผู้ฟังเอง แม้แต่พระผู้มีพระภาคเจ้า เวลาที่พระองค์ประกาศพระธรรมเทศนาหรือว่าประกาศคำสอน ก็ส่วนหนึ่งนะครับก็มีผู้ที่ได้รับประโยชน์ จากพระธรรมที่พระพุทธองค์ทรงแสดง ด้วยการเข้าใจ และก็สามารถที่จะรู้แจ้งธรรมะ บรรลุเป็นพระอริยบุคคลขั้นต่างๆ ได้ แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีผู้ฟังบางส่วนที่ฟังแล้ว ไม่ได้ประโยชน์จากพระธรรมก็มี ครับ"
"เพราะว่า ไม่มีความเข้าใจที่ถูกต้องตามความเป็นจริง เพราะฉะนั้น ธรรมะ นั้นเมื่อจะกล่าวโดยสรุปก็คือ เป็นประโยชน์เฉพาะผู้ที่มีความเข้าใจเท่านั้น ผู้ที่ ไม่มีความเข้าใจย่อมไม่ได้รับประโยชน์จากพระธรรม"
"พระสุสารทเถระได้ภาษิตคาถานี้ไว้ อย่างนี้ว่า การเห็นสัตบุรุษทั้งหลาย ผู้เพรียบพร้อมด้วยศีลาทิคุณ ย่อมยังประโยชน์ให้สำเร็จ เป็นเหตุตัดความสงสัยเสียได้ ทำความรู้ให้เจริญงอกงาม สัตบุรุษทั้งหลาย ย่อมกระทำพาลชนให้เป็นบัณฑิตได้ เพราะฉะนั้น การสมาคมกับสัตบุรุษจึงยังประโยชน์ให้สำเร็จได้"
อาจารย์อรรณพ "โลกนี้เป็นที่ดูผลของบุญและบาป การสะสมอะไรต่างๆ แต่ไม่ได้ดูคนอื่นนะครับ ดูที่ตัวเอง ที่สำคัญก็คือ มาถึงแต่ละท่านเองนะครับ ท่านจะประเมินการสะสมของปัญญามา จากการที่ฟังธรรมะแล้ว น้อมไปที่จะเข้าใจธรรมะหรือเปล่า คือถ้ายังอยู่ในโลกของความคิด ในโลกของความต้องการผล ในเรื่องของการอยากจะรู้เรื่อง หรือ ในเรื่องของการสนใจอะไรอยู่ ที่ไม่ใช่การสนใจความจริง ที่กำลังปรากฏในขณะนี้ ความเข้าใจ ความสนใจ และ ศรัทธาในการที่จะเข้าใจ สิ่งที่ กำลังปรากฏนี้ อันนั้น จะเป็นตัวบ่งชี้ สภาพธรรมะฝ่ายดีเหล่านี้ ศรัทธา ปัญญา ต่างๆ ที่จะเป็นเครื่องพอที่จะอนุมานได้ว่า การสะสมในอดีต แล้วก็ในปัจจุบัน นี้ เป็นไปในทางที่ถูกต้องหรือเปล่า"
คุณลุงนิภัทร "ปทปรมบุคคล ความจริงไม่ได้แปลว่าฟังอะไรไม่รู้เรื่อง ตามความจริง ปทปรมบุคคลนี่ ฟังรู้เรื่องครับ แต่ว่าไม่สามารถที่จะบรรลุมรรคผลในชาตินี้ ก็ถือว่าเป็น ปทปรม ทั้งนั้น อย่างพวกเรานี่ คงจะไม่พ้นละมั้ง"
ท่านอาจารย์ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกร่วมกับสหายธรรมชาวลพบุรี
ในช่วงท้ายของการสนทนาในวันนี้ อาจารย์ธิดารัตน์ ได้กล่าวฝากข้อความที่ท่าน ประทับใจในคำกล่าวของท่านอาจารย์ที่ว่า "เป็นผู้ใหม่เสมอ ทุกขณะที่ฟังธรรมะ แล้วก็ตั้งใจฟัง แล้วก็เข้าใจในสิ่งที่ฟัง เท่าที่จะเข้าใจได้นี่ เพราะไม่มีอย่างอื่นเลย ก็คือ ขณะนี้ เราเข้าใจสภาพธรรมะขนาดไหน" สั้นๆ แต่ควรค่าแก่การพิจารณาเป็นอย่างยิ่ง
การได้ยิน ได้ฟังพระธรรมที่ถูกและตรง ตามที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ แม้มีความเข้าใจเพียงเล็กน้อย ก็เป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งในสังสารวัฏฏ์อันหาที่สุดไม่ได้นี้
ขอกราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ ท่านวิทยากร ท่านผู้จัด และ สหายธรรมชาวลพบุรีทุกท่านครับ
เป็นผู้ใหม่เสมอ ขณะที่ฟังธรรมะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
"เพราะฉะนั้น ผู้ที่เข้าใจจริงๆ ก็จะรู้ว่า พระธรรมมีคุณประโยชน์ และ ก็การ ศึกษานี้คือการศึกษาให้เข้าใจจริงๆ จนตายพอไหม ยังไม่พอ" จนตายจากภพชาตินี้ ชาติหน้า ... ชาติต่อๆ ไป ... เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น จนกว่าจะดับกิเลสหมดสิ้นเป็นสมุจเฉท ถึงพอ
ขออนุโมทนาคุณวันชัยค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณและขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ของขวัญที่ประเสริฐที่สุดคือการช่วยให้คนอื่นเข้าใจธรรมะค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ก้าวย่างที่ประเสริฐคือขณะที่ค่อยๆ เข้าใจพระธรรม แต่ในหนทางที่ถูกต้อง
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ
ขออนุโมทนา ... ในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ