นานาจิตตัง หมายถึงอย่างไรครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
นานาจิตตัง ก็คือ การสะสมของจิตแต่ละจิต ที่แตกต่างกันไป ตามการสะสม ที่ไม่เหมือนกัน เพราะ ความหลากหลายของสภาพธรรม จึงทำให้แต่ละคนมีอุปนิสัยที่แตกต่างกันไป บางคนสะสมปัญญามามาก บางคนสะสมโทสะมาก บางคนสะสมความเห็นผิดมามาก ตามการสะสมของจิต ที่แตกต่างกันไป หรือ มีการชอบที่แตกต่างกันไป ตามการสะสมของจิตนั่นเองที่เกิดขึ้น ครับ ดั่งเช่น ชาดกที่ พระพุทธเจ้าทรงแสดงถึงการชอบอะไรที่แตกต่างกัน ก็เพราะการสะสมที่แตกต่างกัน ดังนี้
๙. นานาฉันทชาดก
ว่าด้วยต่างคนต่างใจ
[๔๖๖] ข้าแต่มหาราช ข้าพระบาททั้งหลายอยู่ร่วมในเรือนหลังเดียวกัน แต่มี ฉันทะต่างกัน ข้าพระบาทอยากได้บ้านส่วย นางพราหมณีอยากได้โคนม สักร้อยหนึ่ง
[๔๖๗] ลูกชายอยากได้รถเทียมด้วยม้าอาชาไนย ลูกสะใภ้อยากได้กุณฑลแก้ว ฝ่ายนางปุณณทาสีผู้ชั่วช้าก็จำนงจะใคร่ได้ครก สาก และกระด้ง
[๔๖๘] ท่านทั้งหลาย จงให้บ้านส่วยแก่พราหมณ์ จงให้โคนมร้อยหนึ่งแก่นาง พราหมณี จงให้รถเทียมด้วยม้าอาชาไนยแก่ลูกชาย จงให้กุณฑลแก้ว แก่ลูกสะใภ้ และจงให้ครกตำข้าว สาก และกระด้งแก่นางปุณณทาสี ผู้ชั่วช้า
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
แต่ละคน เป็นแต่ละหนึ่ง มีความประพฤติเป็นไปตามการสะสม ทั้งความคิด การกระทำ และคำพูด จะเห็นได้ว่า ตราบใดก็ตามที่ยังเป็นผู้ไม่เห็นโทษของอกุศล ก็ย่อมจะเป็นผู้ประมาท มัวเมา มีความประพฤติคล้อยไปตามอกุศลที่สะสมมา ซึ่งก็หลากหลายมาก ความประพฤติที่ไม่เหมาะสมต่างๆ จะมาจากสิ่งอื่นไม่ได้ นอกจากอกุศลธรรมเท่านั้น เพราะถ้ากุศลธรรมเกิดแล้ว จะทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสมไม่สมควร ก็ย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่ที่มีการกระทำในสิ่งที่ผิด ในสิ่งที่ไม่สมควร ก็เพราะอกุศลธรรมเกิดขึ้นเป็นไป นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ซึ่งเมื่อว่าโดยสภาพธรรมแล้ว ก็คือ มีแต่ธรรมเท่านั้น กล่าวคือ จิต พร้อมกับเจตสิกที่เกิดขึ้นเป็นไปในขณะนั้น หาความเป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัวตนไม่ได้เลย ครับ
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ อ.เผดิม อ.คำปั่น
ขออนุโมทนาครับ
เป็นหัวข้อที่น่าสนใจ ขออนุโมทนา