ขณะนี้เป็นความจริงอย่างไร เป็นความจำแต่ไหนแต่ไรว่า ร่างกายมีตั้งแต่ศรีษะจรดเท้า ไม่ได้เคยทิ้งไปเลย ไม่ได้รู้ว่าแท้ที่จริงที่หลงยึดถือ ว่าเป็นเราตั้งแต่ศรีษะจรดเท้านี้ ความจริงมีสภาพธรรมที่ปรากฏทีละทาง แล้วก็ดับไป ไม่มีเราแน่นอน จึงเพิกอิริยาบถ ว่าอิริยาบถนั้นเป็น เรานั่ง เรานอน เรายืน เราเดิน รู้ชัดในลักษณะของสภาพธรรมเมื่อไร เมื่อนั้นไม่มีอิริยาบถใดๆ เลยนะคะ ไม่มีอัตตา ไม่มีสิ่งที่รวมกัน ทรงอยู่ตั้งอยู่ในอิริยาบถหนึ่งอิริยาบถใด แต่ว่าเป็นลักษณะของสภาพธรรมที่เกิดขึ้นดับไป แต่ละทาง ไม่มีตัวตนเลย ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า เหลืออะไรนอกจากสิ่งที่ปรากฏแล้วหมดไปแต่ละลักษณะ นั่นจึงจะละความเป็นตัวตนหรือเป็นเราได้ มิฉะนั้นละไม่ได้เลยค่ะ
จาก สนทนาเรื่องการปฏิบัติธรรม เมื่อวัน ..อาทิตย์ที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐
ท่านทั้งหลายจงมาดูโลกนี้ อันตระการดุจราชรถ
ที่พวกคนเขลาหมกมุ่นอยู่ แต่พวกผู้รู้หาข้องไม่
อนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ขออนุโมทนา
เมื่อมีความเข้าใจทำให้รู้จักตัวเอง รู้จักสิ่งทั้งปวง
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาค่ะ