ที่ผ่านมา การเจริญกุศลประการต่างๆ ณ แดนพุทธภูมิ ประเทศอินเดีย ของมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา มีอาทิ การจัดสร้างที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และที่ประดิษฐานพระธาตุของพระอัครสาวก คือ ท่านพระสารีบุตร และท่านพระมหาโมคคัลลานะ ที่สมาคมมหาโพธิ์ (Maha Bhodhi Society) พุทธคยา รวม ๓ องค์ (ขุดค้นพบโดยนักโบราณคดีอังกฤษ และต่อมารัฐบาลอังกฤษได้ส่งกลับคืนมาให้ประเทศอินเดีย) และการจัดสร้าง พระรัตนบุษยภาชน์อโศกมหาราชปริวรรต เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ พระมูลคันธกุฎี ที่สารนาถ พาราณสี (ภายในบริเวณป่าอิสิปตน มฤคทายวัน ในอดีต) ซึ่งที่ประดิษฐานองค์เดิมที่มีมาแต่สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช และท่านอนาคาริกธรรมปาละนั้น มีความชำรุด โดยทางมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ได้รับโอกาสอันประเสริฐยิ่งในการจัดสร้างที่ประดิษฐานองค์ใหม่ ซึ่งในเวลาต่อมาได้มีหลายประเทศมาขออัญเชิญไปแสดงและให้ประชาชนได้สักการะ
นับเป็นโอกาสที่ประเสริฐอย่างยิ่ง ที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ได้รับโอกาสนั้น ในการจัดสร้างที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุของพระอัครสาวก คือท่านพระสารีบุตรและท่านพระมหาโมคคัลลานะ ทั้งที่พุทธคยา และพาราณสี อันเป็นสถานที่สำคัญยิ่งของพระพุทธศาสนาในประเทศอินเดียทั้ง ๒ แห่ง ซึ่งในแต่ละปีจะมีชาวพุทธจากทั่วโลกเดินทางมากราบสักการะเป็นจำนวนมาก รวมทั้งการดำเนินการปรับปรุงห้องสมุดธรรมปาละ ที่ สมาคมมหาโพธิ์ สารนาถ และการบูรณะซ่อมแซมหลังคาพระมูลคันธกุฎี ที่สารนาถ พาราณสี ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญในการเก็บรักษาพระบรมสารีริกธาตุ ที่ประดิษฐานอยู่ภายใน พระรัตนบุษยภาชน์ฯ ที่ มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาจัดสร้างและถวายไว้เมื่อ วันจันทร์ที่ ๒๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๕ เป็นต้น
(ภาพท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ประธานกรรมการมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ถวายพระรัตนบุษยภาชน์อโศกมหาราชปริวรรต โดยเลขาธิการสมาคมมหาโพธิ์ เป็นผู้รับมอบ ณ พระมูลคันธกุฎี สารนาถ พาราณสี เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๕)
อย่างไรก็ดี ประโยชน์ของการที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น เป็นไปแต่ในด้านของศาสนวัตถุ อันจะก่อให้เกิดเพียงความรู้สึกปีติ ศรัทธา ในพระพุทธศาสนาและพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า จากการได้เห็นและได้สักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุของพระอัครสาวก ที่ประดิษฐานอยู่ภายในพระสถูปที่ได้ถูกจัดสร้างขึ้นด้วยความงดงามวิจิตรบรรจง จากทองคำและอัญมณีมีค่ามากมายที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่ง เท่านั้น การดังกล่าว หาได้เป็นไปเพื่อความเข้าใจในคำสอนที่ถูกต้อง ในพระธรรมคำสอนที่ได้ทรงตรัสรู้และทรงมีพระมหากรุณาแสดงไว้ ให้พวกเราได้เข้าใจไม่
จวบจนกระทั่งในกาลต่อมา ในปัจจุบัน เมื่อท่านพระสีวลีเถระ เลขาธิการสมาคมมหาโพธิ์ ในปัจจุบัน ได้แนะนำให้คู่สามีภรรยาชาวอินเดีย คือ คุณอาคิล (Mr.Akhil) และคุณอาช่า (Ashaji) ซึ่งสนใจในคำสอนของพระพุทธศาสนา และเป็นเจ้าของช่องยูทูปทีวีที่เผยแพร่พระธรรมคำสอนในทางพระพุทธศาสนาของประเทศอินเดียถึงสองช่อง ให้เดินทางมาศึกษาและสนทนาธรรมกับท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เมื่อราวต้นปีพุทธศักราช ๒๕๖๒ ที่ผ่านมา ขณะที่ท่านอาจารย์กำลังอยู่ในระหว่างการพักฟื้น หลังการผ่าตัดกระดูกสันหลังและหัวเข่า ณ โรงพยาบาลเทพธารินทร์ กรุงเทพมหานคร โดยมีคุณโรดริโก้ อัลดาน่า ชาวแม็กซิกัน อดีตเจ้าของสำนักปฏิบัติธรรม สวนธรรมวังระมาศ จังหวัดตราด แต่ในภายหลังได้มาศึกษาธรรมที่ท่านอาจารย์บรรยาย ได้มีจิตศรัทธาเป็นผู้ออกค่าโรงแรมที่พักทั้งหมดสำหรับทั้งสองท่าน ซึ่งมีที่ตั้งใกล้โรงพยาบาลเทพธารินทร์ ทั้งดูแลความเป็นอยู่ทุกประการ รวมถึงการพาคุณอาคิลและคุณอาช่า เดินทางมาสนทนาธรรมกับท่านอาจารย์ที่ห้องพักในโรงพยาบาลทุกวัน รวมระยะเวลาทั้งสิ้นถึงครึ่งเดือน จนทั้งสองท่านพอมีความเข้าใจในพระธรรมที่ถูกต้อง ตรงตามที่ได้ทรงมีพระมหากรุณาแสดงไว้
อนึ่ง ใน ๓ วันแรกของการฟังและสนทนาธรรมกับท่านอาจารย์และคณะฯ ทั้งสองท่านยอมรับว่า รู้สึกงงมาก ทั้งรู้สึกตลึงและทึ่ง ที่ไม่เคยได้เข้าใจมาก่อนเลยว่า ธรรมที่ทรงตรัสรู้และทรงแสดงนั้น มีความลึกซึ้งและเข้าใจยากอย่างยิ่งถึงเพียงนี้ ทั้งได้กล่าวกับท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความปีติอย่างยิ่ง ในภายหลังจากที่ได้กลับไปเผยแพร่ความเข้าใจธรรมที่ประเทศอินเดียแล้วว่า อีกล้านปี จะมีใครที่สามารถเข้าใจได้อย่างนี้ไหม?
เมื่อทั้งสองท่านกลับไปยังประเทศอินเดีย ก็ได้นำความเข้าใจธรรมนี้ไปเผยแพร่ทางทีวีช่องที่ทั้งสองท่านดำเนินการอยู่ ในภาษาฮินดี ซึ่งทั้งสองท่านเป็นผู้มีศรัทธาดำเนินการต่างๆ ในการเผยแพร่พระธรรมเองทั้งหมด โดยที่ขณะนี้ คุณอาช่า (Mrs.Ashaji) ภรรยาของคุณอาคิล ซึ่งเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ มีความเชี่ยวชาญทางด้านภาษาบาลีและสันสกฤต กำลังแปลหนังสือ Abhidhamma in Daily Life (พระอภิธรรมในชีวิตประจำวัน) เป็นภาษาฮินดี เพื่อเผยแพร่ ส่วนคุณอาคิล (Mr.Akhil) ก็ได้ติดต่อขอรับคำปรึกษาในด้านการเผยแพร่พระธรรม ความเข้าใจธรรม โดยตรงกับท่านอาจารย์และมูลนิธิฯ อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ทำให้ท่านอาจารย์ได้เห็นและรับทราบถึงปัญหาต่างๆ ของความตั้งใจในการเผยแพร่พระธรรมของทั้งสองท่าน ซึ่งที่ผ่านมา ทั้งสองท่านไม่เคยปริปากขออะไรจากมูลนิธิฯ เลย นอกจากความรู้และความเข้าใจธรรม เพื่อนำไปเผยแพร่ในประเทศอินเดีย ดังได้กล่าวแล้ว ทั้งได้รับทราบว่า จากการที่ยูทูปทีวีทั้งสองช่องของคุณอาคิลและคุณอาช่า กำลังได้รับความนิยมจากผู้ชม และมีจำนวนผู้ติดตามเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จึงมีผู้มาติดต่อขอซื้อเพื่อนำไปดำเนินกิจกรรมของตน แม้กระทั่งเมื่อทราบว่าทั้งสองท่านจะจัดตั้งมูลนิธิธัมมะ ก็มีผู้มีชื่อเสียงของประเทศอินเดีย มาขอตำแหน่งเป็นประธานกรรมการมูลนิธิฯ ซึ่งแม้ว่าทั้งสองท่านจะมีฐานะทางการเงินที่ค่อนข้างลำบากในปัจจุบัน แต่ทั้งสองท่านก็ไม่ยินยอมรับข้อเสนอตามที่มีผู้เสนอให้ผลประโยชน์จำนวนมากดังกล่าว ด้วยมีกุศลเจตนาที่แน่วแน่ในการเผยแพร่พระธรรมในแนวทางที่ถูกต้องนี้ต่อไป
มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาโดยท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ จึงมีดำริว่า บัดนี้ เมื่อมีเหตุปัจจัยพรั่งพร้อมที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า ให้ได้เห็นว่า จากที่ไม่เคยมี ก็ได้เกิดมีชาวอินเดีย ณ แดนพุทธภูมิ เกิดความสนใจและได้ศึกษาเข้าใจในพระธรรมคำสอนที่ได้ทรงแสดงไว้ ทั้งมีศักยภาพในการที่จะเผยแพร่ความเข้าใจธรรมนั้น ไปสู่สาธารณชนชาวอินเดียผู้มีความสนใจพระพุทธศาสนา ซึ่งกำลังเพิ่มจำนวนมากขึ้นอยู่ตลอดเวลาในขณะนี้ เป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง นับแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบัน "ควรที่จะเป็นโอกาสของการที่จะได้ประดิษฐานความเข้าใจที่ถูกต้องในคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า กลับคืนสู่แดนพุทธภูมิ" ซึ่งเป็นโอกาส และกาลเวลาอันประเสริฐที่หาได้ยาก ที่การเผยแพร่พระธรรมที่ถูกต้องนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ที่มีโอกาสได้รับฟังและเข้าใจ จึงเห็นควรที่จะให้การสนับสนุนส่งเสริมคุณอาคิลและคุณอาช่าอย่างเต็มกำลัง ซึ่งในขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการเพื่อขอจัดตั้งมูลนิธิพระธรรม (Dhamma Foundation) เพื่อการเผยแพร่พระธรรม ณ แดนพุทธภูมิ ประเทศอินเดีย ซึ่งตามกฏหมายของประเทศอินเดีย ชาวต่างชาติไม่สามารถเป็นกรรมการมูลนิธิได้ แต่อนุญาตให้ชาวต่างชาติเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ได้ โดยทางคุณอาคิล ได้ขอให้ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ รับเป็นประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของมูลนิธิที่จะจัดตั้งขึ้น โดยมีที่ปรึกษากิติมศักดิ์จากประเทศไทย คือ ท่านพลเอกสพรั่ง กัลยาณมิตร พลตรี ดร.วีระ พลวัฒน์ คุณสุขิน นฤหล้า และ คุณโรดริโก้ อัลดาน่า และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์อรรณพ หอมจันทร์ รวมทั้งสิ้น ๕ ท่าน แต่การที่จะดำเนินกิจกรรมต่างๆ ได้นั้น ตามกฏหมายของประเทศอินเดีย จะต้องมีสถานที่ตั้งที่ทำการถาวรของมูลนิธิเสียก่อน จึงเห็นว่า ทำเลที่ตั้งของเมืองลัคเนาว์ อันเป็นเมืองหลวงของ รัฐอุตรประเทศ ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย เป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุด (สำรวจเมื่อปี ๒๕๕๔ มีประมาณ ๑๙๙ ล้านคน) ในทั้งหมด ๒๘ รัฐ และ ๙ ดินแดนสหภาพของอินเดีย เป็นเมืองที่มีความเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการเป็นศูนย์กลางในการเดินทางไปสักการะสังเวชนียสถานในประเทศอินเดีย เนื่องจากการเดินทางไปยังพระเชตวันมหาวิหาร เมืองสาวัตถี จะต้องบินมาลงที่สนามบินเมืองลัคเนาว์ก่อน แล้วจึงเดินทางโดยรถยนต์ต่อไปยังพระวิหารเชตวัน ลุมพินีและกุสินารา ได้โดยง่าย หลังจากนั้นจึงเดินทางกลับมาขึ้นเครื่องบินไปยังสนามบินเมืองปัตนะ (หรือเมืองปาตลีบุตร) เพื่อที่จะเดินทางไปยังพุทธคยา แล้วเดินทางต่อไปยังเมืองพาราณสี แล้วจึงขึ้นเครื่องบินกลับประเทศไทยได้ที่สนามบินพาราณสี เป็นอันจบการเดินทางไปสักการะสังเวชนียสถานทั้ง ๔ แห่งที่ประเทศอินเดียได้อย่างสะดวกสบายยิ่ง ทั้งเมืองลัคเนาว์ก็มีระบบสาธารณูปโภคต่างๆ สมบูรณ์เพียบพร้อม และกำลังมีโครงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ (รถไฟฟ้า) อันแสดงให้เห็นถึงความเจริญของเมืองที่กำลังแผ่ขยายออกไปอย่างรวดเร็ว และประการสำคัญอย่างยิ่งคือระบบการสื่อสารสารสนเทศที่ดีมากของเมืองลัคเนาว์ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการเผยแพร่พระธรรมในปัจจุบัน
ด้วยรายละเอียดและเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ จึงมีเมตตาและกุศลเจตนาอย่างแรงกล้า ในอันที่จะให้การสนับสนุนส่งเสริมการจัดตั้งมูลนิธิพระธรรม (Dhamma Foundation) ดังกล่าว อันจะเป็นเสมือนสาขาของมูลนิธิฯ เป็นมูลนิธิแห่งที่สอง ของมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ณ ประเทศอินเดีย ที่ปัจจุบันกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการจัดหาที่ดิน เพื่อก่อสร้างอาคารมูลนิธิ ณ เมืองลัคเนาว์ ในลำดับถัดไป ให้เกิดความสำเร็จลุล่วงโดยเร็ว
บัดนี้ จึงเป็นกาลอันประเสริฐยิ่ง ที่ทุกท่านจะได้มีโอกาสร่วมกัน "เจริญกุศลเพื่อประดิษฐานพระธรรมสู่แดนพุทธภูมิ" ให้มีความเจริญรุ่งเรือง มั่นคง ไพบูลย์ สืบไป อันจะเป็นการตอบแทนคุณที่ประเสริฐที่สุด ในพระมหากรุณาคุณของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐยิ่งหาที่สุดมิได้ พระองค์นั้น
ผู้รับผิดชอบ : ผศ.อรรณพ หอมจันทร์ และ อาจารย์กุลวิไล สุทธิลักษณวนิช
บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เลขบัญชี 235 2 27354 7
ชื่อบัญชี : นายอรรณพ หอมจันทร์ และ/หรือ นางสาวกุลวิไล สุทธิลักษณวนิช
โทรศัพท์ ผศ.อรรณพ หอมจันทร์ : 081-9032699
ขอเชิญรับชมรับฟังการสนทนาของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และพลตรี ดร.วีระ พลวัฒน์ กรรมการและเลขานุการของมูลนิธิฯ ซึ่งได้สนทนาถึงรายละเอียดและความเป็นมาของการเจริญกุศลเพื่อประดิษฐานพระธรรมสู่แดนพุทธภูมิดังกล่าว จากลิงค์ด้านล่าง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่.....
มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา : โทรศัพท์ ๐๒ ๔๖๘๐๒๓๙
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง.....คุณย่าสงวน สุจริตกุล มอบเงินสมทบกองทุนสนับสนุนส่งเสริมการเผยแพร่พระธรรมในประเทศอินเดีย
กราบอนุโมทนาในกุศลและกราบขอบพระคุณ ขออนุโมทนาครับ
กราบเท้าอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลของทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องค่ะ
อนุโมทนาในการเผยแพร่พุทธศาสนาสู่แดนพุทธภูมิค่ะ
กราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบอนุโมทนาอย่างสุงยิ่งสาธุสาธุสาธุ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
เป็นบุญกุศลเหลือประมาณที่จะได้มีส่วนร่วมในกาลอันเป็นมงคลยิ่งนี้
กราบแทบเท้าบูชาพระคุณและอนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์บริหารวนเขตต์ที่เคารพยิ่ง
กราบอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่าน
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
กราบอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆท่านครับ
ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ที่เคารพยิ่ง และมูลนิธิฯ ที่ได้ให้โอกาสร่วมเจริญกุศลในกิจกรรมนี้ครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ