พิธีการปลุกเสกหรือความเชื่อในวัตถุมงคลของขลังจัดเป็นสีลัพพตปรามาสหรือไม่ครับ
ขอบพระคุณมากครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สีลัพพตปรามาส คือ ความยึดถือ ด้วยข้อวัตรปฏิบัติที่ผิด ที่สำคัญว่า ข้อปฏิบัติวัตร นั้นจะทำให้ถึงความบริสุทธิ์ครับ สีลัพพตปรามาส โดยองค์ธรรม ก็คือ ความเห็นผิดนั่นเอง คือ ทิฏฐิเจตสิก สีลัพพตปรามาส เป็นเป็นความเห็นผิด-ที่ยึดถือ-ลูบคลำในข้อวัตรปฏิบัติที่ผิด ว่าเป็นหนทางที่ถูกต้อง เป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์ได้
สีลัพพตปรามาส การยึดถือข้อวัตรปฺฏบัติที่เป็นควาเมห็นผิดที่คิดว่า ทำให้สัตว์บริสุทธิ์ได้ อย่างละเอียด ก็ต้องมีอย่างหยาบก่อนครับ ตามธรรมดา อกุศลธรรม ก็มีทั้งอย่างหยาบ อย่างะอียด ตามกำลังของกิเลสเกิดขึ้น สีลัพพตปรามาส ที่เป็นข้อวัตรปฏิบัิตที่ผิด อย่างหยาบ เช่น ขณะที่ทรมานตน เดินบนตะปู ด้วยสำคัญว่า จะทำให้พ้นทุกข์ ด้วย ความทุกข์ นี่ก็เป็นความเห็นผิด ที่เป็น สีลัพพตปรามาส ข้อวัตรปฏฺบัติที่ผิดอย่าง หยาบ เพราะ แสงดออกมาทางกาย วาจา จนมีการทำการทรมานตน ทางกาย เป็นต้น นี่คือ ตัวอย่าง สีลัพพตปรามาส อย่างหยาบ ส่วน สีลัพพตปรามาส อย่างละเอียด ก็คือ กิเลสที่เป็นความเห็นผิด ที่เกี่ยวข้องกับหนทางปฏิบัติ แต่เป็นหนทางปฏิบัติที่ ผิด แต่ไม่มีกำลัง ที่แสดงออกมาทางกาย ซึ่ง สีลัพพตปรามาส อย่างละเอียด เช่น
แม้แต่ในพระพุทธศาสนา ผู้ที่คิดว่า วัตรปฏิบัตินั้น เป็นหนทางที่ถูกดับกิเลสได้ เช่น การสำคัญว่า การนั่งสมาธิ เป็นหนทางดับกิเลส อันนี้ ก็เป็นสีลัพพตปรามาส ครับ และเมื่อว่าโดยละเอียด แม้แต่การเข้าใจหนทางที่ผิด เช่น สำคัญว่า ต้องจดจ้องในสภาพธรรมใดๆ จึงจะรู้ทั่วถึงสภาพธรรมใดๆ นั้น นี่ก็เป็นสีลัพพตปรามาสอย่าง ละเอียด แล้วครับ เพราะเป็นการยึดถือข้อปฏฺิบัติที่ผิด อันสำคัญว่าเป็นทางหลุดพ้น และแม้การตามดู ตามดูจิต นี่ ก็ไม่ใช่หนทางดับกิิเลส เพราะเป็นตัวตนที่จะตามดู ไม่ใช่สติและปัญญา ครับ ดังนั้นก็เป็นสีลัพพตปรามาส โดยละเอียดอีกเช่นกันครับ
ดังนั้นแม้ ความเป็นตัวตน ที่จะทำ เป็นตัวตนที่จะดูจิต เป็นตัวตนที่จะระลึกลักษณะ ของสภาพธรรม ก็เป็นสีลัพพตปรามาส อย่างละเอียดครับ ดังนั้น สีลัพพตปรามาส เป็นการยึดถืข้อปฏิบัติที่ผิด ที่คิดว่าจะทำให้พ้นทุกข์ ดับกิเลส แต่ การปลุกเสก ไม่ใช่เป็นความคิดที่จะทำให้ดับกิเลส เพียงแต่เป็น การทำที่คิดว่าจะได้สิ่งที่ดี รวมทั้ง ความเชื่อในเครื่องราง ของขลังก็เป็นการ เชื่อที่ขัดหลักกับกรรม แต่ ไม่ใช่คิดว่าจะทำให้พ้นทุกข์ จึงไม่เป็นสีลัพพตปรามาส แต่เป็นความเห็นผิด ครับ
ขออนุโมทนา
ขอบพระคุณอาจารย์มากครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ความไม่รู้ ทำให้คนกระทำในสิ่งที่ผิดๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม แสดง ให้เห็นเลยว่าสะสมกิเลสมามากมายแค่ไหน ถ้าไม่ได้รับการขัดเกลาด้วยความเข้าใจ พระธรรมแล้ว นับวันยิ่งจะสะสมพอกพูนมากยิ่งขึ้น แม้แต่ในการปลุกเสกของขลัง ทำไปด้วยจิตอะไร ไม่พ้นไปจากความเห็นผิด ความไม่รู้ และแฝงไปด้วยความติด ข้องต้องการ อยากให้คนนับถือบูชา นอกจากตนเองจะเห็นผิด หลงงมงายแล้ว ยังส่งเสริมสนับสนุนให้คนอื่นเห็นผิด หลงงมงายไปด้วย ทำให้คนออกจากพระธรรม คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลเลยแม้แต่น้อย ทั้งหมดทั้งปวง ไม่ใช่คำสอนทางพระพุทธศาสนาเลย เพราะเหตุว่า ถ้าเป็น พระธรรมคำสอนในทางพระพุทธศาสนาแล้ว เป็นคำสอนที่เป็นไปเพื่อละ ขัดเกลา ละคลายกิเลส เป็นไปเพื่อปัญญาความเข้าใจถูกเห็นถูกโดยตลอด ไม่มีการส่งเสริม ให้ไปทำอะไรด้วยความไม่รู้ ด้วยความเห็นผิดเลยแม้แต่น้อย และ ไม่มีใครที่จะมี อำนาจบังคับบัญชาให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดขึ้นได้เลย ทุกอย่างเกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุ ปัจจัย จริงๆ แม้แต่การได้รับผลของกรรม ก็ต้องมาจากเหตุคือกรรมที่แต่ละคน ได้กระทำแล้ว ไม่ใช่กรรมของคนอื่น ด้วย ต้องเป็นกรรมของตนเอง เท่านั้น การปลุกเสกของขลัง เป็นมิจฉาทิฏฐิอย่างแน่นอน แต่ไม่ได้เป็นไปกับความเห็น ที่ว่าหนทางนี้จะทำให้พ้นจากทุกข์ จึงไม่ใช่สีลัพพตปรามาส เพียงแต่มุ่งให้เกิดลาภ สักการะ ปลอดภัย เป็นต้น แต่เป็นไปไม่ได้เลย ไม่มีอะไรที่จะมาบังคับบัญชาให้สิ่ง หนึ่งสิ่งใดเกิดขึ้นเป็นไปได้เลย การปลุกเสก บรรพชิตทำก็ผิด ฆราวาสทำก็ผิด เพราะเป็นอกุศลจะถูกไม่ได้เลย
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
การถือเครื่องรางของขลัง เป็นมงคลตื่นข่าว เป็นความเห็นผิด แต่ว่า ถ้านับถือพระเครื่อง ระลกถึงพระคุณแล้ว เป็นกุศล ค่ะ
ขอบพระคุณอาจารย์ทุกท่านมากครับ
ขออนุโมทนา
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ