การเกิด ก็เป็นสภาพธรรมที่เลือกไม่ได้เลย ไม่มีใครสามารถที่จะไปเลือกเกิดที่ภพภูมิใดได้ ผู้ที่คิดว่าถึงอย่างไรก็ยังต้องเกิดต้องตาย เลือกไม่ได้ ควรที่จะกระทำความดีสะสมความเข้าใจ เป็นผู้ฉลาดในความตาย แต่ละคนก็แต่ละหนึ่ง แต่ละขณะจิตเลือกไม่ได้เลย แต่ละขณะเกิดแล้วก็ดับไปหมด กลับมาไม่ได้อีก จะเห็นได้ว่าในวันหนึ่งแต่ละขณะที่ดับไป เต็มไปด้วยการสะสมพอกพูนอกุศลเพิ่มขึ้นมากกว่ากุศล กำลังของอกุศลมีมาก ชีวิตก็เหลือน้อยเต็มที จะตายไปพร้อมความไม่เข้าใจความจริงซึ่งเป็นเหตุให้เกิดอกุศลทั้งหลายอันนำไปสู่ทุคติภูมิ อกุศลกิเลสทั้งหลายเมื่อยังไม่ได้ดับ ก็ยังนำไปสู่การเกิดขึ้นของแต่ละขณะจิตไม่สิ้นสุด
ผู้ฉลาดในความตายจึงต้องอาศัยพระธรรม ศึกษาพระธรรมโดยละเอียดทั้งที่เป็นกุศลและอกุศล เห็นโทษของอกุศลเห็นคุณประโยชน์ของกุศล ฉะนั้น ผู้ฉลาดในการเกิดและตาย จึงเป็นผู้กระทำความดีและสะสมความเข้าใจธรรม การเข้าใจความจริงของสิ่งที่มีจริงขณะนี้เป็นหนทางเดียว ที่จะค่อยๆ คลายความไม่รู้ ละคลายอกุศลได้ แล้วก็ไม่ใช่แต่จะมุ่งอบรมเจริญปัญญาเพียงอย่างเดียวโดยไม่สะสมความดี เพราะความดีทั้งหลายเป็นเครื่องอุปการะแก่การอบรมเจริญปัญญาเพื่อถึงจุดหมายปลายทางได้
ข้าพเจ้าเคยกราบเรียนท่านอาจารย์ว่า ในชีวิตประจำวันที่ทำมาค้าขายอยู่ เห็นผู้คนมากมายซึ่งเขาไม่เข้าใจพระธรรมมีแต่อกุศลเกิดขึ้น มีแต่ความติดข้องต้องการ ความโลภ ความหวัง ความขุ่นเคืองใจ ความโกรธ ความเห็นผิด ... มากมาย เขาเหล่านั้นน่าเห็นใจมาก
ข้าพเจ้ารู้สึกว่าเป็นผู้ที่โชคดีที่ได้ฟังพระธรรมพอเข้าใจได้ระดับหนึ่ง แต่ก็รู้ว่าอกุศลของตนก็ยังมีมากมาย แต่ก็ยังคิดขึ้นได้เห็นโทษของอกุศลและเห็นคุณของกุศล ไม่ประมาทในขณะนั้นที่จะเป็นทาสของอกุศล ท่านอาจารย์กล่าวว่า เมื่อเห็นอกุศลของผู้อื่น ที่ไม่เข้าใจธรรมควรมีเมตตาต่อเขาเหล่านั้น
เพราะ เห็นโทษของอกุศลว่าให้โทษแม้เพียงเล็กน้อย ขณะนั้นก็เป็นปัญญา
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ อย่างยิ่งค่ะ...
ผู้ที่ฉลาดในการเกิดและการตาย คือ ผู้ที่มีความเข้าใจพระธรรมที่ถูกต้อง และย่อมรู้ตามความเป็นจริงว่า ความเกิดคืออะไร ความตายคืออะไร และรู้เข้าใจถูกว่า เมื่อเกิดแล้วก็ต้องตาย แต่เกิดมาแล้ว อะไรที่มีค่าในการมีชีวิตอยู่ นั่นคือการทำความดีและสะสมปัญญา เพราะจะเป็นที่พึ่งต่อไปในโลกหน้า และทำให้พ้นจากการเกิดและการตาย อันเป็นความทุกข์ เพราะนำมาซึ่งทุกข์กายและทุกข์ใจประการต่างๆ
เพราะฉะนั้น ฉลาดเพราะเข้าใจพระธรรมถูกต้อง และจะฉลาดเข้าใจถูกต้องได้ ก็ด้วยการศึกษาพระธรรม ครับ
ขออนุโมทนาพี่เมตตา และ ทุกท่าน ครับ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาพี่เมตตา, อาจารย์ผเดิม และทุกๆ ท่าน ครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ผู้เป็นมารดาทางธรรม ... ท่านแสดงธรรมมาตั้งแต่ท่านอายุ ๒๖ ปี ท่านเกิด ๑๓ ม.ค. ๒๔๖๙ เริ่มแสดงธรรมในปี ๒๔๙๖ จนถึงปัจจุบันท่านก็ยังคงมีเมตตาวิริยะ ... ฯลฯ ที่จะแสดงธรรมต่อไปเรื่อยๆ ... เนื่องในวันคล้ายวันเกิดที่จะเวียนมาครบอีกครั้ง ขอคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และมหากุศลญาณสัมปยุตต์ของท่าน จงดลบันดาลให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัย สุขกาย สุขใจ ด้วยเทอญฯ
อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ
ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เป็นผู้มีเมตตาอย่างหาประมาณไม่ได้ ท่านเพียรให้เข้าใจสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ไม่ใช่ไปคิดถึงเรื่องราวหรือจะไปรู้สิ่งที่ไม่ปรากฏ ท่านให้ความเข้าใจสภาพธรรมที่เป็นอนัตตา ไม่ใช่การรู้ชื่อ ฟังเพื่อเข้าใจสิ่งที่มีจริง พิจารณา ไตร่ตรอง ตรึกถึงลักษณะสภาพธรรมที่มีจริงๆ
คบสัปบุรุษเพื่อสงบจากกิเลส ได้ฟังสิ่งซึ่งเป็นเหตุให้สงบจากอกุศล ในเมื่อสัปบุรุษเป็นผู้สงบจากกิเลส ท่านรู้หนทางที่จะสงบจากกิเลส สงบจากความไม่รู้ โลภะ โทสะ คบเพื่อฟังสิ่งที่มีประโยชน์ยิ่ง ฟังให้เข้าใจความจริงจึงเป็นผู้ฉลาดในการเกิดและตาย
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เกิดมาเพื่อจากไปด้วยดี ด้วยการสะสมความดีและฟังพระธรรมให้เข้าใจ นี้แหละคือผู้ที่ฉลาดจริงๆ ที่จะถือเอาสาระที่แท้จริง ในขณะที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ที่มีชีวิต อยู่เพียงชั่วคราว ครับ
...ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่เมตตาและทุกๆ ท่าน...
เกิดมาเพื่อทำความดี สะสมบารมีทุกๆ ทาง สะสมปัญญาไว้ภพต่อๆ ไป ค่ะ
กราบอนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ