ถ. ผมก็เคยถามท่านผู้หนึ่งว่า ฆนสัญญาหมายความถึงอะไร ท่านบอกว่า เปลี่ยนจากรูปนั่งไปเป็นรูปยืน เปลี่ยนจากยืนไปเป็นนอน เปลี่ยนจากนอนไปเป็นเดินนี้ คือ แตกเป็นอย่างนี้ ผมก็ไม่เข้าใจ แต่ถ้าพูดถึงความหมาย คำว่า แตกย่อยซึ่งเป็นฆนสัญญานี้ แตกย่อยด้วยปัญญาที่สามารถพิจารณารู้ได้ แต่จะเอาความหมายแตกย่อยธรรมดาที่ว่าแก้วแตก หรืออะไรแตกอย่างนี้ๆ ไม่สามารถจะรู้ได้ ผมเข้าใจว่าอย่างนี้
สุ. ถ้ารูปนั่งมี ปรากฏเป็นกลุ่มเป็นก้อน แล้วดับลงไป นั่นอะไรแตกย่อย ก็ยังรวมกันทั้งหมด ในเมื่อท่านศึกษาแล้วว่า ในขณะที่ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้นดวงแรกมีรูปกี่รูปที่เกิดพร้อมกับปฏิสนธิจิตในอุปปาทขณะของปฏิสนธิจิต เพราะเหตุว่าจิตดวงหนึ่งมี ๓ ขณะ คือ อุปปาทขณะ ขณะเกิดขึ้น ฐีติขณะ ขณะที่ยังตั้งอยู่ ยังไม่ดับไป ภังคขณะ คือ ขณะที่ดับไป
ในอุปปาทขณะของปฏิสนธิจิต มีกัมมชรูปเกิดร่วมด้วยกี่กลาป ทรงแสดงไว้โดยละเอียด ในฐีติขณะ ในภังคขณะก็มีกัมมชรูปเกิดร่วมด้วย เมื่อปฏิสนธิจิตดับ ปฐมภวังค์เกิดต่อเป็นจิตดวงที่ ๒ ซึ่งในขณะนั้นมีจิตตชรูปเกิดพร้อมกับ อุปปาทขณะของปฐมภวังค์ และรูปทุกรูปที่เป็นสภาวรูปมีอายุเท่ากับการเกิดดับของจิต ๑๗ ดวง คือ ทยอยกันเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ถ้ารูปที่เกิดพร้อมอุปปาทขณะของปฏิสนธิจิตก็จะต้องมีอายุต่อไปจนถึงจิตเกิดดับ ๑๗ ดวง จึงจะดับ
ที่กาย ที่ปรากฏให้เห็นว่า เป็นสัตว์ เป็นบุคคล ยังไม่แตกย่อยสลายไป ก็เพราะเหตุว่ารูปทยอยกันเกิด และทยอยกันดับตามประเภทของรูปที่เกิดขึ้นว่า จะเกิดขึ้นพร้อมกับอุปปาทขณะของจิตดวงใด หรือจะเกิดในฐีติขณะ หรือในภังค-ขณะอย่างไร นี่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ไม่ใช่มีท่าทางอันหนึ่งกำลังนั่งอยู่ แล้วก็ดับไปทั้งหมดพร้อมกัน นั่นไม่ได้แตกย่อย กระจัดกระจายรูปอะไรออกไปเลยสักรูปเดียว
มีรูปอะไรที่ผู้เจริญสติกำลังรู้ในขณะที่นั่ง เป็นรูปอะไรในรูป ๒๘ รูป และเป็นรูปอะไรใน ๑๘ รูปที่เป็นสัมมสนรูป และในรูปที่เป็นสภาวรูป ๑๘ รูปนั้น เป็นรูปอะไรที่เป็นวิสยรูปที่เป็นรูปที่ปรากฏทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย
ที่มา และ อ่านเพิ่มเติม ...
แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 155