ทรงแสดงไว้ว่า
ตัณหาเพียงดังว่าแม่น้ำ เพียงดังว่าข่าย เพียงดังว่าสายโซ่ เพียงดังว่าทะเล อภิชฌา โลภะ อกุศลมูล นี้เรียกว่า ชัปปา คือ ตัณหา
ตัณหานี้เป็นเครื่องทา คือ เป็นเครื่องฉาบไว้ไม่ให้เห็นความจริง เป็นเครื่องข้อง เป็นเครื่องผูก
โลกอันตัณหานี้ไล้ทา ฉาบทาให้หมอง ให้มัวหมอง ให้เปื้อน ระคนไว้ ข้องไว้ คล้องไว้ พันไว้ เราย่อมกล่าว บอก แสดง บัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนก ทำให้ตื้น ประกาศ
เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า เรากล่าวว่า ตัณหาเป็นเครื่องฉาบทาโลก
ซึ่งท่านอชิตะ ก็ได้กราบทูลถามต่อไปว่า
จะมีธรรมใด เป็นธรรมที่เป็นเครื่องกั้นกระแสของตัณหาและกิเลสทั้งหลาย
ซึ่งพระผู้มีพระภาคก็ได้ตรัสว่า
มีสติเป็นเครื่องกั้น มีปัญญาเป็นเครื่องปิดกั้น
เพราะเหตุว่าถ้าสติไม่เกิดขึ้นระลึกรู้ลักษณะของนามรูปแล้ว ตัณหาก็ย่อมเกิดขึ้น ไหลไปตามอารมณ์ต่างๆ
ที่มา และ อ่านเพิ่มเติม ...
แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 127