ผมขโมยสุราของพ่อ แต่ไม่ได้เอาไปกิน แต่เอาไปทิ้ง เจตนาเพื่อป้องปราม ผมบาปไหมครับ เพราะพ่อผมกินหล้าวันละกลมทุกวันไม่ทำงาน เมาหัวราน้ำ กินจนคนในบ้านเอือมนะอา บ้านมีแต่ปัญหาทะเลาะเบาะแว้ง กินจนเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการติดเหล้าและอาการทางประสาท ออกมาแล้วก็ยังกินต่อ ไม่ฟังใคร ไม่สนใคร คุยดีก็แล้ว ไม้แข็งก็แล้ว ทำมาหมดแล้วทุกวิธี แต่เขาไม่ยอมเลิก กินตั้งแต่เช้ายันเย็นกินมาเป็นสิบๆ ปี ผมเหนื่อยและท้อมาก บางทีเห็นแล้วทนไม่ไหวครับ เห็นแกซื้อเหล้ามาผมก็แอบขโมยไปทิ้ง แต่ก็ไม่แก้ปัญหาเดี๋ยวแกก็ไปซื้อใหม่ ผมจะบาปไหมครับ และถ้าเป็นพี่ๆ ในนี้จะแก้ปัญหาและหาทางออกอย่างไรดีครับ โมทนากับคำตอบครับ สาธุ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อกุศล ทุกขณะทุกประเภท เป็นบาป ทั้งหมด ในชีวิตประจำวันอกุศลเกิดขึ้นเป็นไปมาก บาปจึงมีมากทีเดียว แต่ขึ้นอยู่กับว่ากำลังของอกุศลนั้นมากน้อยเพียงใด ถ้ายังไม่ล่วงเป็นทุจริตกรรม ก็ยังไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากในภายหน้า เป็นเพียงการสะสมสิ่งที่ไม่ดี แต่ก็จะประมาทกำลังของอกุศลไม่ได้เลยทีเดียว
ขณะที่มีเจตนาดี หวังดี ไม่ใช่บาป เพราะมุ่งประโยชน์แก่ผู้อื่น แต่ในระหว่างนั้น อกุศลก็อาจจะเกิดแทรกได้ ไม่ว่าจะเป็นความไม่พอใจ หรือ แม้กระทั่ง เอาของของบุคคลอื่นไปทิ้ง เป็นต้น ทั้งหมดทั้งปวง เป็นธรรม ไม่ใช่เรา กุศล เป็น กุศล อกุศล เป็น อกุศล
แต่ละคน เป็นแต่ละหนึ่ง มีความประพฤติเป็นไปตามการสะสม เราไม่สามารถที่จะไปทำอะไรได้เลย บังคับบัญชาไม่ได้ แต่หน้าที่ของเรา คือ ทำสิ่งที่ควรทำ เกื้อกูลเท่าที่จะเกื้อกูลได้ตามกำลังความสามารถของตน เมื่อเกื้อกูลอย่างเต็มที่แล้ว ผู้ที่ถูกเกื้อกูล จะเป็นอย่างไร ก็ไม่หวั่นไหว เพราะเราได้ทำอย่างดีที่สุดแล้ว ไม่เดือดร้อน เพราะเข้าใจถึงการสะสมของแต่ละบุคคล ครับ
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...
ขออนุโมทนาครับ
ชออนุโมทนา