จากการฟังสนทนาธรรมที่มูลนิธิฯ วันเสาร์ที่ผ่านมา (2 ตุลาคม 2553) พระสูตรที่นำมาสนทนา มีหลายข้อความที่น่าสนใจเป็นข้อคิดที่สามารถนำมาพิจารณาในชีวิตประจำวันได้...และ ได้เห็นคุณของพระธรรม...เช่น ข้อความบางตอนจาก อุทยชาดก ...
[เล่มที่ 60] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค๖ - หน้าที่ ๓๑ - ๕๐ ๔
อุทยชาดก (ว่าด้วยพระเจ้าอุทัยภัทระ และ พระนางอุทัยภัทรา) [๑๕๓๙] ข้าแต่พระลูกเจ้า ถ้าพระองค์เป็น พระเจ้าอุทัยเสด็จมา ณ ที่นี้ เพื่อต้องการจะเปลื้องข้อผูกพันไซร้ ข้าแต่พระราชบุตร ขอเชิญพระองค์จงโปรดพร่ำสอนหม่อมฉัน ด้วยวิธีที่เราทั้งสองจะได้พบ กันใหม่อีกเถิด เพคะ
ชอบใครมากๆ แล้ว จะอธิษฐานไหม ขอชาติหน้าได้พบกันอีก
การได้พบกันแต่ละชาติ ก็ไม่สามารถล่วงรู้ได้เลยและเลือกไม่ได้ ธรรมย่อมไหลมาแต่เหตุหากเมื่อมีการพบกันแล้ว มีความเข้าใจพระธรรม มีการเกื้อกูล ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันนำพากันไปสู่ความเจริญในธรรมยิ่งขึ้นไป ก็ไม่เสียทีที่ได้พบกัน และ ไม่เสียใจเมื่อต้องจากกัน พบกันตามเวลา จากกันตามเวลา ชาติที่แล้วไม่รู้ว่าเป็นใคร มาจากไหนชาติหน้ายังมาไม่ถึง สิ่งที่รู้ได้ขณะนี้ก็คือ กำลังทำอะไรอยู่ ยังประโยชน์ให้เกิดขึ้นเมื่อพบกัน ด้วยความเคารพในธรรม อนุโมทนาในจิตที่ประพฤติธรรมค่ะ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ
พบกันบ่อยๆ จากกันบ่อยๆ พบกันแล้วก็จากกันไป พบกันใหม่ก็จากกันอีก พบกันมาเกือบทุกฐานะ ทั้งคนรัก มิตร ศัตรู วนเวียนไปในสังสารวัฏฏ์ พบกันเพราะไม่รู้ว่าเป็นธรรม การเกิดบ่อยๆ ของสังขารธรรมทั้งหลายเป็นทุกข์ ควรอบรมปัญญาไปจนกว่าจะน้อมไปสู่ความเห็นถูกว่าเป็นธรรมทั้งหมด ความเข้าใจเพิ่มขึ้นตามลำดับ จนกว่าจะน้อมไปสู่ธรรมที่ดับการเกิดครับ
พระเจ้าอุทัยภัทระทรงเตือนพระนางอุทัยภัทราให้เห็นว่าชีวิตนั้นแสนลำเค็ญ เต็มไปด้วย ทุกข์ ชีวิตของสัตว์ทั้งหลายในแต่ละภพชาติก็เป็นที่พักชั่วคราว แต่ละชาติเป็นของน้อยนิด แล้วก็ต้องตายจากกันแน่นอน ไม่ควรที่จะประมาท ควรประพฤติธรรม
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมนาค่ะ
ขอบคุณและขออนุโมทนาคะ
ขอชาติหน้าได้พบกันอีก หากค้นประโยคนี้ในweb จะพบคำถามประเภทนี้มาก ธรรมเป็นอนัตตาไม่เป็นไปตามความต้องการของใคร ธรรมะเป็นไปตามเหตุปัจจัย ชอบใครมากๆ หมายถึงติดข้องมากๆ ตัณหาคือ ความติดข้องเป็นเหตุให้เวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏฏ์ไม่สิ้นสุด แต่ความชอบเกิดเป็นธรรมดาในปุถุชน หากพระธรรมไม่ชี้ให้เห็นโทษ ความคิดที่จะละคงไม่มี
ในพระไตรปิกกล่าวถึงการเกิดมาแล้วได้พบกันอีก
พ. ตรัสสั่งสอนว่า ท่านคฤหบดีและท่านคฤหปตานี ถ้าภริยาสามีหวัง ที่จะได้พบกันทั้งในชาตินี้และชาติหน้าไซร้ ทั้งคู่พึงเป็นผู้มีศรัทธาเสมอกัน มีศีลเสมอกัน มีจาคะเสมอกัน มีปัญญาเสมอกันเถิด ก็จะได้พบกัน ทั้งในชาตินี้และชาติหน้า
เชิญคลิกอ่าน...ภริยาสามีหวังที่จะได้พบกันทั้งในชาตินี้และชาติหน้า [ปฐมสมชีวิตสูตร]
มีโอกาสที่จะได้เจอกันอีกในชาติต่อไป
[๔๒๒] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหมือนอย่างว่า บุรุษตัดทอนหญ้า ไม้ กิ่งไม้ ใบไม้ ในชมพูทวีปนี้ แล้วจึงรวมกันไว้ ครั้นแล้ว พึงกระทำให้เป็นมัดๆ ละ ๔ นิ้ว วางไว้ สมมติว่า นี้เป็นมารดาของเรา นี้เป็นมารดาของมารดาของเรา โดยลำดับ มารดาของมารดาแห่งบุรุษนั้นไม่พึงสิ้นสุด ส่วนว่า หญ้า ไม้ กิ่งไม้ ใบไม้ ในชมพูทวีปนี้ พึงถึงการหมดสิ้นไป ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่า สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ เมื่อเหล่าสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นที่กางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ
เชิญคลิกอ่าน...ที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายของสงสาร [ติณกัฏฐสูตร][เล่มที่ 26] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้าที่ 529
๔. มาตุสูตร ว่าด้วยสงสารกำหนดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ เหมือนผู้ไม่เคยเป็นมารดา
[๔๕๐] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย แล้วได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ สัตว์ที่ไม่เคยเป็นมารดาโดยกาลนานนี้ มิใช่หาได้ง่ายเลย ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่า สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ พอเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้
จบมาตุสูตรที่ ๔ ขออนุโมทนาทุกท่านค่ะ
เราพบกันมานับชาติไม่ถ้วนแล้ว แต่จำกันไม่ได้ แต่ชาตินี้ได้พบกัน เป็นมิตรกัน เกื้อกูลกันทางธรรม แล้วทำให้กุศลทั้งหลาย เจริญขึ้นชาตินั้นก็เป็นชาติที่ประเสริฐที่สุดค่ะ
คิดเห็นคล้ายคุณ wannee.s ครับ อยู่กับปัจจุบันมีความสุขอยู่ในโลกแห่งความจริงความสุขหรือทุกข์อยู่ที่เราเลือก ชาตินี้ก็ดีชาติหน้าก็ดี อยู่ที่กุศลผลบุญจะนำพาให้พบเจอแต่สิ่งที่ดีสงบสุขทางจิตใจ