ผมใส่บาตรทำบุญบ่อยๆ บางครั้งก็ปลื้ม แต่ส่วนใหญ่ไม่ปลื้มครับ และบริจาคเลือดก็ทำมาเกือบ 20 ครั้ง พยายามสังเกตใจตัวเองก็ไม่ปลื้ม รู้สึกเฉยๆ ทั้งที่ต้องใช้ความพยายามในการทำมาก เจ็บตัวมาก (เพราะเส้นผมจมจึงหาเส้นยาก) และต้องเตรียมตัวนาน แต่วันที่ได้รับใบอนุโมทนาจากคุณวรรณีกลับรู้สึกปลื้ม ต่อมาก็บอกให้น้องที่ทำงานเดียวกัน ส่งเงินเดือนเดือนแรกให้พ่อแม่เขาและแนะนำให้เขาทำบุญก็รู้สึกปลื้มอีก อาการอย่างนี้คืออะไรครับ และการทำบุญแล้วรู้สึกปลื้มกับไม่ปลื้มจะได้บุญกุศลแตกต่างกันมั๊ยครับ
บุญคือ กุศลจิตมีเวทนา ๒ คือ กุศลจิตที่เกิดพร้อมกับอุเบกขา ๑ กุศลจิตที่เกิดพร้อมกับโสมนัสเวทนา ๑ ดังนั้น กุศลจิตในชีวิตประจำวันของเราบางครั้งก็มีโสมนัส บางครั้งก็ไม่มีเป็นธรรมดา เป็นไปตามเหตุและปัจจัย บังคับบัญชาไม่ได้ ไม่เป็นไปตามอำนาจ อนึ่ง ตามหลักพระธรรมแสดงว่ากามาวจรกุศลที่ประกอบด้วยโสมนัสเวทนามีกำลังมากกว่ามีผลมากกว่ากุศลที่ประกอบด้วยอุเบกขาครับ
เชิญพิจารณา
08796 ตั้งจิตอย่างไรให้โสมนัสอะคาบ โดย golf1983
08783 ถามเรื่องโสมนัส โดย kob1983
ขออนุโมทนาครับ
ธรรมะทุกอย่างบังคับบัญชาไม่ได้ค่ะ การที่จะให้แล้วปลื้มหรือไม่ปลื้ม ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัย อย่างเช่น พระเจ้าทุฏฐคามมณีอภัย ท่านให้ทานมาเยอะมาก แต่ทานที่ทำให้พระเจ้าทุฏฐามมณีอภัยปลื้มมากคือ ตอนที่ท่านไปออกรบแล้วแพ้ ท่านก็หนีไปที่ป่าแห่งหนึ่ง มีอมาตย์คนหนึ่งและม้าตัวหนึ่งติดตามพระราชาไป พระราชาแบ่งอาหารเป็น 4 ส่วน และพระราชาจะไม่บริโภคอาหารก่อนที่จะให้ทาน พระเถระทราบวาระจิต ก็มาโปรดพระราชา พระราชาก็ถวายส่วนของพระเถระและส่วนของตัวเองด้วย อมาตย์ก็ถวายส่วนของตัวเองตาม ม้าก็ถวายส่วนของตัวเองตาม ภายหลังพระราชาใกล้จะสวรรคต ระลึกถึงทานที่ให้ครั้งนั้น ก็ปลื้มปิติไปเกิดบนสวรรค์ค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขณะที่ทำบุญ ทำกุศล ด้วยกุศลจิต ก็ต้องได้บุญ ขณะที่ปลื้ม ก็เป็นคนละขณะกับที่ทำบุญค่ะ